ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรมระดับประเทศ จังหวัดสุรินทร์

ปี ๒๕๕๓

ด้านศาสนา (ภาคประชาชน) พระธรรมโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ วัดศาลาลอย

พระอารามหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

พระธรรมโมลี

(ทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ / พิศลืม)

น.ธ.เอก , พ.ม. ,ปธ.๙ , พธ.บ. , M.A. , Ph.D. (Buddhisim)

วัน/เดือน/ปี เกิด สถานที่เกิด

วันอังคารที่ ๒๕ เดือน กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๗๖(เดือน ๘ ปีระกา) หมู่ ๕ บ้านตะตึงไถง ตำบลนอกเมือง

อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๐๐๐ บิดาชื่อ นายเคล็ม มารดาชื่อ นางแคน พิศลืม

บรรพชา

เมื่อวันที่ ๑๗ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒ ณ วัดกลางสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

โดยมี พระประภากรคณาจารย์(เดื่อ ปภากโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์

อุปสมบท

เมื่อวันที่ ๑๐ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๗ ณ พัทธสีมา วัดกลางสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

โดยมี พระประภากรคณาจารย์(เดื่อ ปภากโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์

พระครูวิภัชกัลยาณธรรม(จันทร์ กลฺยาณมุตฺโต) เป็น พระกรรมวาจาจารย์

พระครูสิทธิการโกศล เป็น พระอนุสาวนาจารย์

วิทยฐานะ

พ.ศ. จบประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านตะตึงไถง

พ.ศ. ๒๔๙๗ สอบไล่ได้นักธรรมเอก จากสำนักศาสนศึกษาวัดศาลาลอย สำนักเรียนคณะจังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๐๔ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๘ (ประเภทสมัครสอบ) กรุงเทพมหานคร

พ.ศ. ๒๕๐๙ สำเร็จการศึกษาประโยคครูพิเศษมัธยม (พ.ม.)

พ.ศ. ๒๕๑๑ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) รุ่นที่ ๑๔ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤกษฎิ์ กรุงเทพมหานคร

พ.ศ. ๒๕๑๓ สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค จากสำนักศาสนศึกษาวัดบุญวาทย์วิหาร สำนักเรียนคณะจังหวัดลำปาง

พ.ศ. ๒๕๑๙ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท อักษรศาสตรมหาบัณฑิต (M.A.) สาขาสันสกฤต จากมหาาวิทยาลัยมัทราส ประเทศอินเดีย

พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารการศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๕๒ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิชาพระพุทธศาสนา (พธ.ด.) จากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤกษฎิ์ กรุงเทพมหานคร

มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดพิธีประสาทปริญญา แก่ผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑แก่พุทธศาสตรบัณฑิต รุ่นที่ ๕๔ พุทธศาสตรมหาบัณฑิต รุ่นที่ ๑๙ และพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต รุ่นที่ ๕ โดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณเสมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสนมหาเถระ)ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เดินทางมาเป็นองค์ประธานในพิธีประทานปริญญาบัตรตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๑๗ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒ ณ หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม ในปีการศึกษา ๒๕๕๑ ที่ผ่านมามีผู้สำเร็จการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งระดับดุษฎีบัณฑิตและมหาบัณฑิต จำนวนทั้งหมด ๑๗๗ รูป/คนระดับดุษฎี บัณฑิต จำนวน ๑๒ รูป/คน (พระภิกษุ ๑ รูป คือ พระธรรมโมลี(ทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ/พิศลืม)เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ รองอธิการบดี วิทยาเขตสุรินทร์สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ๕ ปี ด้วยวัย ๗๖ ปี )

ประวัติการทำงานด้านการศึกษา ตำแหน่งทางคณะสงฆ์ และลำดับสมณะศักดิ์

พ.ศ. ๒๕๐๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจสอบ ธรรมสนามหลวง ปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤกษฎิ์ กรุงเทพมหานคร

พ.ศ. ๒๕๐๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดพิชยญาติการาม แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นครูสังกัดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤกษฎิ์ กรุงเทพมหานคร สอนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-ปลาย ณ โรงเรียนสตรีสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักศาสนศึกษาวัดบุญวาทย์วิหาร สำนักเรียนคณะจังหวัดลำปาง

พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาลอย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ และได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็น "รองเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์" (พระมหาทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ/พิศลืม)

พ.ศ. ๒๕๒๓ - ๒๕๓๙ ปฎิบัติหน้าที่เจ้าสำนักเรียนคณะจังหวัดสุรินทร์ โดยการมอบหมายจาก "พระราชสิทธิโกศล" (เทพ นนฺโท) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้รับพระราชทานตั้งสมณะศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ในราชทินนามที่ " พระศรีธีรพงศ์ "

พ.ศ. ๒๕๒๔-๒๕๔๗ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนปริยัติโกศลวิทยา (พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาสุรินทร์) วัดกลาง จังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกวัดราษฎร์เป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ และรักษาการเจ้าอาวาสวัดศาลาลอย (พระอารามหลวง) วันที่ ๑ เดือน ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓

พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นประธานศูนย์ครูพระปริยัตินิเทศก์ จังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๓๕ เมื่อ วันที่ ๔ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัด พระอารามหลวง โดยเจ้าประคุณ สมเด็จพุฒาจารย์ จ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระสังฆราชฯ มอบพระบัญชาแต่งตั้ง

พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ " พระราชวิสุทธิเมธี "

พ.ศ. ๒๕๓๖-ปัจจุบัน เป็นผู้รับใบอนุญาตจัดการโรงเรียนบาลีสาธิต (พระปริยัติธรรม แผนกสามัญ) วัดศาลาลอยพระอารามหลวงสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นเจ้าสำนักเรียนคณะจังหวัดสุรินทร์ และรักษาการเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๓๙-ปัจจุบัน ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจสอบบาลีสนามหลวง ปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ

พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพะราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ " พระเทพปัญญาเมธี "

พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพะราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ " พระธรรมโมลี "

งานเผยแพร่

พ.ศ. ๒๕๐๘ เป็นพระธรรมฑูตจังหวัดสุรินทร์

พ.ศ. ๒๕๓๗ - ปัจจุบัน เป็น ประธานจัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉพาะส่วนของวัดศาลาลอย พระอารามหลวง ในแต่ละปีมีเยาวชนเข้าบรรพชาเป็นสามเณรไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ รูป และเยาวชนสตรีร่วมปฏิบัติธรรมไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ คน

พ.ศ. ๒๕๔๐ - ปัจจุบัน เป็นประธานกลุ่มเผยแพร่พระพุทธศาสนา จังหวัดสุรินทร์

ผลงานดีเด่นที่เป็ิธรรมคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม

ได้จัดการศึกษาทั้งในด้านปริยัติธรรมแผนกธรรมบาลี และฝ่ายสามัญ ตั้งแต่เด็กก่อนเกณฑ์
มัธยม จนถึงระดับอุดมศึกษา กล่าวคือ ระดับเด็กก่อนเกณฑ์ ได้เปิดศูนย์พัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ภายในวัด ระดับมัธยมศึกษา ได้เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญขึ้นที่วัดเพื่อให้พระภิกษุสามเณรได้ศึกษา ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อขยายโอกาสให้เยาวชนในถิ่นทุรกันดารได้มีโอกาสศึกษาควบคู่กับศึกษาหลักพุทธธรรมทางพระพุทธศาสนา อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการดำเนินชีวิต รู้จักนำวิชาที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาบูรณาการกับหลักพุทธธรรม นำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตและสังคมได้ และได้ส่งเสริมให้สถานศึกษาได้พัฒนาวิชาการควบคู่กับหลักจริยธรรม โดยการจัดโครงการสู่ร่มอาราม นำเยาวชนนักเรียนเข้าศึกษาธรรมในวัด แม้แต่ในกรมราชทัณฑ์ ก็ได้จัดพระภิกษุเข้าอบรมผู้ต้องขังในเรือนจำ จนได้รับประกาศเกียรติคุณจากอธิการบดีกรมราชทัณฑ์ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาจิตผู้ต้องขัง ในปี พ.ศ.๒๕๓๙