มณฑปพระปัจจเจกพุทธเจ้านี้จะตั้งอยู่หน้าวิหาร ๑๐๐ เมตร ประดับกระจกและก็พื้นปูด้วยหินอ่อน ภายในเป็นที่ประดิษฐานของรูปพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ท่านได้มาทำภาพให้เห็น เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๓๒ เวลาตอนประมาณสัก ๔ ทุ่ม ขณะนั้นไม่ค่อยจะสบาย ก็นอนภาวนา จับลมหายใจเข้าออกตามปกติ และก็มานึกถึงร่างกายว่ามันไม่ดี พอจิตสงบ อารมณ์สงัดก็ปรากฏว่า มีพระองค์หนึ่งห่มจีวรสีกรัก ห่มคลุมอายุยังไม่แก่นักนั่งอยู่บนเตียงข้างขวา เมื่อเห็นพระท่านแล้วก็มีความรู้สึกว่าพระท่านมาเยี่ยม แต่ว่าเวลานี้ เราก็เพลียเต็มที เรื่องพระท่านมาเยี่ยม ก็ขอเป็นเรื่องของพระท่าน ขอบคุณท่าน แต่การต้องการรู้อะไรทั้งหมดไม่มีแล้ว ต้องการจะหลับก็ตั้งใจจับลมหายใจเข้าออกภาวนาต่อไป โดยไม่สนใจกับภาพพระ
ต่อมาสักครู่หนึ่งก็ปรากฏว่า ท่านปรากฏขึ้นด้านซ้าย ตอนนี้เป็นเวลาดึก มองดูนาฬิกาเห็นว่าเวลาตีสองเห็นท่านชัดตอนนี้นอนตื่นขึ้นมาแล้ว เริ่มมีแรง ก็ลุกขึ้นนมัสการท่าน ถามว่า ท่านเป็นใครขอรับ ท่านก็เลยบอกว่า ฉันคือ พระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ช่วยสงเคราะห์เธออยู่ แล้วก็ถามท่านบอกว่าที่มาอย่างนี้ต้องการให้ปั้นรูปเหมือนอย่างนี้ใช่ไหมขอ รับ แต่ความจริง มณฑปด้านทิศตะวันออกนี้ ตั้งใจจะปั้นรูปพระปัจเจกพุทธเจ้า แบบพระพุทธรูป
ท่านก็เลยบอกว่าฉันตั้งใจให้เธอเห็นภาพฉันก่อนนิพพาน แล้วก็ให้ปั้นตามนี้ แต่ความจริงที่พูดนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัทเป็นเวลาที่ตื่นจากที่นอนไม่ใช่นั่งเข้าฌาน แล้วเวลากราบท่าน ก็ไม่ได้หลับตาเข้าฌาน เป็นการสภาพเวลาปกติ แต่ว่า ท่านก็สามารถบันดาลให้เห็นชัดๆ และก็พูดกันรู้เรื่องๆ จึงได้จัดสินใจว่า ให้เขาปั้นและหล่อรูป พระปัจเจกพุทธเจ้าแบบนี้ คล้ายคลึงกัน จึงได้ให้ประเสริฐปั้นแล้วก็มาให้ดู บอกลักษณะให้เธอ แล้วเธอก็ปั้น แต่ความจริงประเสริฐนี้ก็เจริญกรรมฐานพอสามารถจะดึงภาพต่างๆมาให้เห็นได้ เธอปั้นได้แบบใกล้เคียงมาก