ประวัติความเป็นมาวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวอีสานประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก และมีความเชื่อในวัฒนธรรมประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมการบูชาหรือเสี่ยงทาย เพื่อสักการะเทวดา ผีปู่ ผีย่า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเชื่อว่าจะทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ทำให้พืชพันธ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ และให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข และประเพณีบุญยอดน้ำ ของชาวตำบลบ้านผือได้จัดกิจกรรม ซึ่งเป็นพิธีกรรมเสี่ยงทายเพื่อขอฟ้าขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาลและเป็นการสักการะบูชาผีปู่ผีย่า โดยได้ยึดถือปฏิบัติมาตั้งแต่โบราณกาล ในทุกวันพุทธที่ 2 ของเดือน 6 ของทุกปี โดยประชาชนในชุมชนและท้องถิ่น จะร่วมมือร่วมใจกันสืบทอดต่อ ๆ กันมา โดยการเล่าขานของนายบุญหนัก สาดา ,พ่อคูน คำเบ้า , นายดำหงอก สิมมา และนายบุญเลิศ อนุศรี
พิธีกรรมเพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชนและท้องถิ่น ประกอบด้วยพิธีกรรมอยู่ 3 ขั้นตอนดังนี้
1.การทำบุญทางพุทธศาสนาจะมีพระภิกษุสงฆ์ เป็นผู้นำในการประกอบพิธี โดยพระภิกษุต้องมาจากทุกหมู่บ้าน จะมีการสวดมนต์ ไหว้พระ และรดน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับบรรดาญาติโยมที่มาร่วมกันในการประกอบพิธี และถวายภัตตาหารเพลให้กับพระภิกษุสงค์ถือเป็นการเสร็จพิธี
2.การเซ่นสรวงผีปู่ย่าโดยจะมีขะจ้ำเป็นผู้นำในการประกอบพิธี โดยทุกหมู่บ้านต้องมีขะจ้ำมาด้วยไม่อย่างนั้นจะประกอบพิธีไม่ได้ โดยขะจ้ำจะนำ ขัน 5 ดอกไม้ธูปเทียน ไก่นึ่ง เหล้า หมากและยาสูบที่ทุกหมู่บ้านนำมาเซ่นสรวงบูชา ขอบคุณต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตมา ขอบคุณผีปู่ย่าที่ บันดาลให้มีฝนตกต้องตามฤดูกาลในฤดูที่ผ่านมาและเซ่นสรวงบูชาขอฝนและความอุดมสมบูรณ์ให้กับฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง และมีการทำนายทายฝนฟ้ากับไก่นึ่งที่แต่ละหมู่บ้านนำมา โดยถ้าคอไก่มีสีขาวฝนในฤดูที่กำลังจะมาถึงเป็นฝนแล้ง น้ำในการทำเกษตรกรรมไม่เพียงพอต่อความต้องการ ชาวบ้านก็จะหันไปทำนาผายมากกว่านาดำ แต่ถ้าคอไก่มีสีแดง นั่นแสดงว่าในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงจะมีความอุดมสมบูรณ์ฝนตกต้องตามฤดูกาล น้ำมีเพียงพอต่อการเกษตรกรรม ชาวบ้านก็จะทำนาดำมากกว่านาผาย เพราะมีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก และจะมีการเสี่ยงบั้งไฟ โดยบั้งไฟทุกหมู่บ้านต้องนำมาหมู่บ้านละ 1 บั้ง และทำนายเป็นหมู่บ้านหมู่บ้านไป ถ้าบั้งไฟขึ้น แสดงว่ามีฝนมากฝนตกต้องตามฤดูกาล ส่วนถ้าบั้งไฟแตก นั่นแสดงว่าในปีนี้ฝนจะแล้ง เมื่อจุดบั้งไฟเสียงทายเสร็จจะมีการแข่งบั้งไฟกันต่อ ถ้าบั้งไฟของใครไม่ขึ้นจะถูกเพื่อนหามลงโคลน การเล่นแบบนี้เหมือนกับประเพณีบุญบั้งไฟ
3.การทำบุญกินเลี้ยงโดยทุกหมู่บ้านจะนำอาหารที่ตนเองนำมามาแบ่งปันกันรับประทาน ไม่แยกว่าจะเป็นคนที่รู้จักกันหรือไม่รู้จักกัน บ้านเดียวกันหรือต่างหมู่บ้านแต่ทุกคนร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเหมือนคนในครอบครัว เพื่อนฝูงที่ไม่ได้ พบกันนาน หรือญาติพี่น้องที่ไม่ได้พบหน้ากันหลายปีก็จะถามสาระทุกข์สุขดิบ ถามความเป็นอยู่ สุขภาพอนามัยกัน การรับประทานอาหารนี้จะรับประทานในช่วงเที่ยงหลังจากถวายภัตตาหารเพลเสร็จ ญาติโยมจะมารวมตัวกันรับประทานอาหารกัน ใครมีอะไรก็มาแลกเปลี่ยนกันกิน
ความเชื่อประเพณีบุญยอดน้ำ จะทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์
ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข