อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออกตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๓๐๙ (สายอ่างทอง-อยุธยา) กิโลเมตรที่ ๕๒-๕๓ จากอำเภอเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ ๓-๔ กิโลเมตร ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่มีลักษณะคล้ายพระพุทธไสยาสน์จากวัดป่าโมกแต่มีขนาดย่อมกว่าเล็กน้อย สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าสมัยอยุธยา เดิมองค์พระชำรุดทรุดโทรมอย่างมากปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ และยังมีพระพุทธรูปสร้างสมัยพระเจ้าทรงธรรมราวพ.ศ. ๒๑๖๓ เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาต่อมาเมื่อใกล้จะพังลงน้ำ พระมหาวิเชียร ขันนาค พร้อมด้วยพุทธบริษัทได้ช่วยกันเลื่อนเข้ามาประดิษฐาน ไว้ ณ ที่ปัจจุบัน เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๙๐ ต่อมาได้ชักชวนกันสร้างพระวิหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงทำการฉลองเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๐๒ เพราะเหตุที่ผ่านอุปสรรคจากกิเลสมารตลอด รอดมาได้อย่างราบรื่น จึงพร้อมใจกันถวายพระนามนิมิตรว่า “ พระรอดวชิรโมลี ” เพื่อเป็นที่สักการะเคารพบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายตลอดกาล ๕,๐๐๐ พรรษา วัดนก (วัดราชปักษี) อยู่ท่ามกลางหมู่บ้านนก ตำบลโพสะ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๓๐๒ ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาไม่ถึง ๑๐ ปื ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตะวันออก ห่างจากตัวเมืองจังหวัดอ่างทองประมาณ ๔ กิโลเมตร เดิมสัญจรไปมาใช้เส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก หน้าวัดจึงผินสู่ทางทิศตะวันตก ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วว่าได้ก่อสร้างราวปีพ.ศ. ๒๓๐๒ ก่อนเสียกรุงตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เหตุเพราะสงครามไทยกับพม่าทำให้วัดร้างว่างนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ปีพ.ศ. ๒๔๑๐ วัดนกได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๑ วัดนกได้ขนานนามใหม่ว่า วัดราชปักษี ตั้งแต่ วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์พ.ศ. ๒๔๙๑ เป็นต้นมา ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่มีลักษณะคล้ายพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมกแต่มีขนาดย่อมกว่าเล็กน้อย สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าสมัยอยุธยา หันพระพักตร์สู่ทิศเหนือ เดิมองค์พระชำรุดทรุดโทรมอย่างมากปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ และยังมีพระพุทธรูปสร้างสมัยพระเจ้าทรงธรรมราวพ.ศ. ๒๑๖๓ เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาเมื่อใกล้จะพังลงน้ำ พระมหาวิเชียร ขันนาค พร้อมด้วยพุทธบริษัทได้ช่วยกันเลื่อนเข้ามาประดิษฐาน ไว้ ณ ที่ปัจจุบัน เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๙๐ ต่อมาได้ชักชวนกันสร้างพระวิหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงทำการฉลองเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๐๒เพราะเหตุที่ผ่านอุปสรรคจากกิเลสมารตลอดรอดมาได้ อย่างราบรื่น จึงพร้อมใจกันถวาย พระนามนิมิตรว่า “ พระรอดวชิรโมลี ” เพื่อเป็นที่สักการะเคารพบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายตลอดกาล ๕,๐๐๐ พรรษาปัจจุบันทางวัดได้จัดงานสมโภชหลวงพ่อพระนอน หลวงพ่อพระรอด เป็นประจำทุกปี โดยกำหนดจัดงานในเดือน ๔ แรม ๒ ๓ ๔ ค่ำ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้นมัสการ