ศิลาจารึกหลักนี้เป็นแผ่นหินสูง ๑ เมตร ๙๓ เซนติเมตร กว้าง ๔๗ เซนติเมตร หนา ๖ เซนติเมตร จารึกทั้งสองด้านๆ ที่ ๑ มี ๗๘ บรรทัดชำรุดเสียหายหลายบรรทัด คือตั้งแต่บรรทัดที่ ๖๙ ไปอ่านไม่ใคร่ได้ ด้านที่ ๒ มี ๕๘ บรรทัด แต่ด้านนี้ยังชำรุดยิ่งไปกว่านั้นคือ ตั้งแต่ยอดลงมาจนถึงบรรทัดที่ ๔๓ ซีกข้างซ้ายของหลัก หินได้กะเทาะออกเสียจนไม่มีตัวอักษรเหลืออยู่ อ่านไม่ได้เลย
ศิลาจารึกหลักนี้เดิมทีไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพยายามสืบหาอยู่เป็นเวลานาน จนเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔ พระองค์เสด็จกลับจากเชียงใหม่มาประทับที่เมืองกำแพงเพชรจึงได้ความจากพระครูธรรมาธิมุตมุนี (ศรี) เจ้าอาวาสวัด (พระ) บรมธาตุ ซึ่งอยู่ในวัดนั้นมา ๔๐ ปีเศษ ยังจำได้เมื่อศิลาหลักนี้อยู่ในวัดนั้น และยังมีฐานทำด้วยแลงอันมีขนาดพอเหมาะกับศิลาหลักนี้อยู่จนเดี๋ยวนี้ ตั้งแต่นั้นมา (พ.ศ.๒๔๖๔) จึงทราบได้ว่า ศิลาหลักนี้เดิมอยู่ที่วัด (พระ) บรมธาตุริมแม่น้ำปิงข้างทิศใต้ หน้าเมืองกำแพงเพชร
ที่วัดนี้แต่ก่อนมีพระเจดีย์ ๓ องค์ องค์กลางเป็นรูปพระเจดีย์ไทยได้อนุญาตให้คนพม่า ชื่อพญาตะกาซ่อมเมื่อ ๓๐ ปีเศษแล้วมานั่นเองบางทีจะเป็นพระเจดีย์องค์นี้เองที่ได้กล่าวไว้ในศิลาจารึกนครชุมนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เมืองนครชุมซึ่งในศิลาจารึกหลักที่ ๘ เรียกว่านครพระชุมเดิมคงอยู่ริมแม่น้ำปิงทิศตะวันตกในบริเวณใกล้เคียงกับวัดพระบรมธาตุเดี๋ยวนี้
ศิลาจารึกนครชุมนี้ได้นำลงมากรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๙ พร้อมกับรูปพระอิศวร ที่นายรัสต์มัน ชาวเยอรมันได้พบที่ศาลพระอิศวรเมืองกำแพงเพชร (จารึกหลักที่ ๑๓) และได้ตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานจนถึง พ.ศ.๒๔๕๑ จึงได้ส่งมายังหอพระสมุด ฯ
ศิลาจารึกนครชุมนี้ได้จารึกเมื่อมหาศักราช ๑๒๗๙ ปีระกา (พ.ศ. ๑๙๐๐) เป็นเรื่องพระยาฦาไทยคือพระธรรมราชาที่ ๑ ได้ประดิษฐานพระศรีรัตนมหาธาตุและได้ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ ซึ่งได้มาจากลังกาทวีป เรื่องนี้มีในด้านที่ ๑ ตั้งแต่บรรทัดที่ ๑ ถึงบรรทัดที่ ๑๔ ตั้งแต่บรรทัดที่ ๑๕ ถึง ๖๓ กล่าวถึงเรื่องสัทธรรมอันตรธาน ๕ และเป็นคำตักเตือนสัตบุรุษให้รีบเร่งทำบุญกุศลเมื่อพระพุทธศาสนายังมีอยู่ ตั้งแต่บรรทัดที่ ๖๔ ถึงด้านที่ ๒ บรรทัดที่ ๔๗ เป็นคำสรรเสริญพระเจ้าธรรมราชาที่ ๑ ว่าเป็นกษัตริย์ผู้ดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรมและเป็นธรรมิกะมหาราช ที่สุดกล่าวถึงศิลาจารึกและรอยพระพุทธบาทต่างๆ ที่พระธรรมราชาทรงสร้าง ในหัวเมืองต่างๆ ในอาณาเขตของพระองค์
อ้างอิง เอกสารประกอบการสัมมนาวิเคราะห์ วิจัย ถ่ายทอด จารึกที่พบในจังหวัดกำแพงเพชร เนื่องในสัปดาห์อนุรักษ์มรดกไทย ๙ เมษายน ๒๕๔๕ ดำเนินการโดย กลุ่มส่งเสริมการศาสนาและวัฒนธรรม สำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดกำแพงเพชร และศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยจังหวัดกำแพงเพชร