มัสยิดมัจยมูอุ้ลอิสลาม จดทะเบียนเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๒ เป็นลำดับที่ ๘ ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่เลขที่ ๘ หมู่ที่ ๑ ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทราที่ดินที่ตั้งมัสยิดมีเนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่
มัสยิดมัจยมูอุ้ลอิสลาม สร้างขึ้นเมื่อใดไม่มีการจดบันทึกไว้แต่มีการบอกเล่าว่าเมื่อประมาณ ๑๘๐ ปีล่วงมาแล้ว มีประชาชนชาวมุสลิมสามกลุ่ม ได้เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครกลุ่มที่หนึ่งมาจากเดินทางมาจากคลองบางลำพู กลุ่มที่สองมาจากพญาไท กลุ่มที่สามมาจากบ้านครัว ทั้งสามกลุ่มได้มาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านคลองหกวา ต่อมาฮัจยีสมะ นางแย้ม ได้บริจาคที่ดินมีเนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่ สำหรับใช้ก่อสร้างอาคารมัสยิด ซึ่งเป็นอาคารไม้สักทองกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๒ เมตร รูปทรงไทยตกไพลรอบคล้ายศาลาการเปรียญ มีหน้ามุขทรงไทยย่อส่วนลงมา มีหออาซานสูง ๑๐ เมตร ลักษณะแบบจตุรมุขสี่ทิศ มุขทั้งสี่แกะสลักรูปสิงโตมี บาแล กว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๐ เมตร มีเรือนรับรองสำหรับคนเดินทางมาพักอาศัย กว้าง ๖ เมตร ยาว ๘ เมตร พื้นที่บริเวณโดยรอบเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยมีฮัจยีละฮัย มะลีวัลย์ ซึ่งเป็นลูกเขย ดำรงตำแหน่งเป็นอิหม่ามประจำมัสยิด ในปี พ.ศ.๒๔๗๐ ฮัจยีสมาน มะลิวัลย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งอิหม่ามในสมัยนั้น และคณะกรรมการได้มีมติที่จะสร้างมัสยิดหลังใหม่แทนหลังเก่าซึ่งชำรุดทรุดโทรม โดยได้สร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๓๔ เมตร มีสองโดม หนึ่งเสาบัง ( หออาซาน ) สูง ๑๐ เมตร โดยใช้เงินของฮัจยีสมาน มะลิวัลย์ และของสัปบุรุษช่วยกันสร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป จนกระทั่งฮัจยีสมาน มะลิวัลย์ ถึงแก่กรรม แต่มัสยิดก็ยังสร้างไม่เสร็จ ต่อมาอิหม่ามฮัจยีมัดเซ็น มะลิวัลย์ ซึ่งเป็นบุตรของฮัจยีสมาน มะลิวัลย์ ได้บริจาคที่ดิน ประมาณ ๓ ไร่ ๒ งาน และย้ายโรงเรียนสุเหร่าคลองหกวา (โรงเรียนประชาบาล) ออกจากพื้นที่ของมัสยิด ไปสร้างในที่ดินแห่งใหม่ที่บริจาคไว้ เพื่อให้พื้นที่บริเวณมัสยิดมีบริเวณกว้างขึ้น และได้ช่วยกันสร้างมัสยิดจนเสร็จสมบูรณ์ ต่อมา นางมะณี มะลิวัลย์ และฮัจยีมุสตอฟา บินอาวัง ได้บริจาคที่ดินให้กับมัสยิด จำนวน ๒๐๐ ตารางวา เพื่อใช้เป็นทางเข้าออกให้กับมัสยิด และทางมัสยิดได้ซื้อที่ดินเพิ่มอีก ๒๐๐ ตารางวาและได้ร่วมกันบริหารมัสยิดมาจนถึงปัจจุบัน
ลำดับอิหม่ามจากอดีต–ปัจจุบัน
๑.นายละฮัย มะลิวัลย์
๒. นายสมาน มะลิวัลย์
๓.นายหมัดเซ็น มะลิวัลย์
๔.นายอีซา ตะมะ