ศาลเจ้าแม่สองนาง- ในปีพุทธศักราช ๒๔๑๕ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พวกจีนฮ่อได้ยกทัพไล่ตีหัวเมืองต่างๆ ศึกครั้งนี้ลุกลามจนถึงเมืองหนองคาย ชาวบ้านต่างหวาดกลัวจึงได้อพยพหนีพวกจีนฮ่อ ส่วนหนึ่งได้อพยพลงมาตามแนวแม่น้ำโขง บางส่วนได้ตั้งหลักแหล่งตามลุ่มน้ำโขงไล่กันลงมา พ่อเฒ่าพรมได้อพยพมาพร้อมครอบครัวคือภรรยาและลูกสาวสองคน แต่ในระหว่างทางเมียของพ่อตู้พรมเสียชีวิต เหลือแค่นางสาวเภาและนางสาวเหลาลูกสาวของพ่อเฒ่า พ่อเฒ่าได้บวชเป็นชีผ้าขาว (ชีปะขาว) จนกระทั่งถึงจนมาถึงคุ้มบ้านกลาง บ้านบึงกาฬ จึงได้ตั้งรกรากรวมกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่เดิม ด้วยชีผ้าขาวพรมเป็นผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า ชาวบ้านจึงขอร้องให้ชีผ้าขาวพรมไปปราบภูตผีที่ดอนหอ (กุดทิงในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นบริเวณที่ชาวบ้านเข้าไปหาของป่า ต่อมาชีผ้าขาวพรมจึงย้ายมาอยู่ที่ดอนหอ แล้วให้ลูกสาวทั้งสองอยู่ที่คุ้มบ้านกลางดังเดิม ทั้งสองต่างไม่ยอมแต่งงาน ใช้ชีวิตร่วมกันเพียงสองคนพี่น้อง
ต่อมาด้วยอายุและสังขารต่างร่วงโรย นางทั้งสองจึงเสียชีวิตด้วยโรคชรา ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างศาลเป็นสถิตแก่ดวงวิญญาณแล้วเรียกศาลแห่งนี้ว่า ศาลเจ้าแม่สองนาง เป็นที่เคารพนับถือแก่ผู้คนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากมาขอพรให้เจ้าแม่ช่วยปัดเป่าความทุกข์ เจ้าแม่สองนางก็ได้ดลบันดาลความสุขตามที่ปราถนา ประสพความสำเร็จ มีการบวงสรวงศาลเจ้าแม่สองนางในวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ของทุกปี