ประเภทเป็นแผนที่เขียนลายมือ ลายเส้นด้วยหมึกดำลงบนกระดาษไทย
วัสดุที่ทำกระดาษทำจากเยื่อไม้ไผ่
ลักษณะตัวอักษรภาษาไทยสมัยรัชกาลที่ 5 แผนที่เขียน โดยการประมาณระยะทางมิได้มีมาตราหน่วยวัด ( Scale )
สาระ
กล่าวได้ว่าดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงที่ เป็นอาณาจักรล้านช้างได้ตกเป็นเมืองประเทศราช ของไทยนับแต่รัชสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงมอบให้เจ้าพระยาจักรีและพระยาสุรสีห์ ยกกองทัพไปปราบปรามหัวเมืองใหญ่น้อยทั้ง ปวงพร้อมอันเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ มาจนทุกวันนี้ ในรับสมัยพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์เวี ยงจันทน์ ระหว่าง พ.ศ. 2369-70 ทำ ให้เกิดสงครามต้อนเกลี้ยกล่อม ผู้คนทางหัวเมือง ฝั่งซ้ายอพยพผู้คนเข้ามาตั้งเป็นบ้านเป็น เมือง ทางฝั่งขวาหลายเมือง ในสมัยรัชกาลพระ บาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เห็น ว่าดินแดนที่อยู่ห่างไกลเหล่านี้อาจไม่ ปลอดภัยจากการคุกคามของญวนจึงมอบหมายให้ เจ้าเมืองต่าง ๆ เช่น เมืองสกลนคร เมืองนครพนม เมืองมุกดาหาร ดูแลรักษาดินแดนหัวเมืองต่าง ๆ เช่น
เมื่อปีกุน เบญจศก จุลศักราช1225 พระบาทสมเด็จ พระเจ้ากรุงสยามโปรดเกล้าให้ราชบุตร ( เหม็น ) เป็นพระภูวดลบริรักษ์ ยกบ้านโพหวา เป็นเมือง ภูวดลสอางค์อยู่ฟากโขงฝั่งซ้ายริมแม่น้ำ เซบั้งไฟ แขวงเมือง สกลนคร รักษาด่านช่องทางสม ทบเข้ากับไพร่พลเมืองภูวดลดสอางค์ป้องกันพระ ราชอณาเขตกรุงสยาม มิให้ ญวนซึ่งเป็นศัตรู ล่วงล้ำเข้ามากดขี่บ่าวไพร่ ราษฏร ให้ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตาม แนวพระราชอณาเขตสยามก็ หาได้มีที่หมายเป็นหลักเขต มีทหารรักษา ด่านเป็นระยะ ๆ ไม่จวบจนมีเหตุการณ์สำคัญ เกิดขึ้นหลายครั้ง รัฐบาลสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้า อยู่หัวจึงต้องส่งผู้คนไปปักหลักพระราชอ ณาเขต ดังปรากฏหลักฐานดังนี้
1. เมื่อปีระกา สัปตศก จุลศักราช 2428 เจ้าฟ้า หามงีเวียนเนียน หลานจักรพรรดิตืดดึก เจ้าเมืองภู ซุน ( เมืองเว้ ) หนีกองทัพฝรั่งเศสมา ทางเมืองวังคำ ลงมาถึงบ้านบ่อคำแฮ แขวงเมืองภูวดลสอาง โปรดเกล้าฯให้เมืองสกลนครคุมไพร่ พลขึ้นไปรักษาด่านเมืองสกลนคร อย่าให้เจ้าญวน ล่วงล้ำเข้ามาอาศัยในพระราชอาณาเขตสยาม ได้ เมืองสกลนครได้จัดให้พระอนุบาล ( เมฆ ) เมื่อเป็นท้าวสุวรรณสาร คุมพล 300 คน และอาวุธ สำหรับมือขึ้นไปรักษาด่านทางด้านบ้านนากระแด้ง ตีนเขาจากแขวงเมืองภูวดลฝั่งซ้าย
2. โปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีวิไชย ชนินทร์ สมุหเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลนครไชยศรี เมื่อ ยังเป็นที่จะหมื่นมณเฑียรพิทักษ์ฯ ขึ้นไปปักหลัก พระราชอาณาเขตที่ตีนเขาอาก แขวงเมืองภูวดลส อาง คือ ที่ตำบลห้วยนายมี หลักหนึ่ง ที่น่า ประจ้นหลักหนึ่ง เมืองหลวงมูเลงร้างหลักหนึ่ง บ้านนาหินหลักหนึ่ง แล้วตั้งรักษาด่านห้ามปราม ไม่ให้เจ้าฟ้าหามงีเวียนเนียน เดินทางมา ถึงปลายเขตแดนภูวดลสอาง บ้านน้อยนายม บ้าน นาแสน บ้านนาปวง บ้านบ่อคำแฮขึ้นเขา อากไปบ้านนาค บ้านตอง เข้าไปแขวงเมืองต่าง ๆ ที่เป็นพระราชอาณาเขตกรุงเว้
3. อีกครั้งหนึ่ง เมื่อปีฉลู เอกศก จุล ศักราช 1251 พุทธศักราช 2432 โปรดเกล้าฯ พระราชทาน สัญญาบัตรให้ท้าวเมฆ บุตรราชวงค์ (จูม) พระบริบารศุภกิจ (คำสาย) ขึ้นปักหลัก พระราชอาณาเขตสยาม ที่บนหลังเขาทิม ซึ่ง เป็นที่น้ำแบ่งในเขตแขวงเมืองคำม้วนหลัก หนึ่ง แขวงเมืองวังคำสองหลัก แขวงเมืองผาบัง สองหลัก หลวงณรงค์โยธาข้าหลวงกับพระบริบาลศุภกิจ (คำสาย) ตั้งกองรักษาราชการอยู่เมือง วังคำ ราชวงค์(จูม) ตั้งรักษาราชการ อยู่เมืองภูวดลสอาง 13 เดือน จึงได้กลับบ้านเมือง
4. จนถึงปีมะเส็ง เบญจศก จุลศักราช 1255 พุทธศักราช 2436 จึงได้เกิดเหตุไม่สงบกับฝรั่ง เศส ฝรั่งเศสขับไล่หลวงโยธานุโยค ข้าหลวงฝ่ายส ยาามซึ่งประจำรักษาราชอยู่เมืองวังคำ บรรดาข้าหลวง กรมการซึ่งรักษาราชการอยู่ ตามหัวเมืองฟากโขง ฝั่งซ้ายนั้น ฝรั่งเศสขับไล่ให้ข้ามฟากแม่ น้ำโขงหาว่าแม่น้ำโขงเป็นดินแดนกรุง เว้ อันนัมอยู่ในความป้องกันของฝรั่ง เศสแล้ว
5. ฝ่ายรัฐบาลสยามคือ ข้าหลวงต่างพระองค์ สำเร็จราชการมณฑลลาวพวน จัดให้พระยาสุ ริยเดช (กาจ) ข้าหลวงเมืองสกลนครเป็นแม่ทัพ ไปตั้งกองทัพประชุมทหารอยู่ทหารอยู่เมือง นครพนม ให้พระพิทักษ์ยุทธภัณฑ์ (เทศ) มาเป็น ข้าทบวงเมืองสกลนครจัดเกณฑ์กำลังทำลูกกระสุนดิน ประสิว ส่งสะเบียงอาหารแก่กองทัพ เมือง สกลนครถูกเกณฑ์กำลัง 1,000 คน พร้อมด้วยเครื่อง ราชศาสตราวุธ ลูกกระสุนดินดำ ให้พระ วิชิตพลทหาร (ได้) พระท้าวหาร (เสน ) กรมการเมืองสกลนคร คุมกำลังไปเข้าสมทบกอง ทัพพระยาสุริยเดช แม่ทัพนายกองข้าม โขงไปตั้งค่ายมั่นอยู่เมืองภูวดลสอาง เมืองสกลนคร ถูกเกณฑ์ข้าวสารไปขึ้นฉางเมืองนครพนม 10,000 ถัง ส่งไปขึ้นฉางเมืองเขมราช 10,000 ถัง ในระหว่างกองทัพตั้งประชิดประชันกันอยู่นั้น เมืองสกลนครถูกเกณฑ์ส่งลูกกระสุนดินประสิวแก่ กองทัพอยู่เนือง ๆ จนถึงเดือน 10 ปีรัต โกสินทร์ ศก 112 นั้น จึงสงบศึก โดยรัฐบาลสยาม ยอมยกดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้เป็น ของฝรั่งเศส ฝรั่งเศสก็ได้ปกครองหัวเมือง ลาวทั้งปวง ซึ่งอยู่ในดินแดนฟากแม่น้ำ โขงฝั่งซ้ายตั้งแต่ รศ.112
6. สภาพของเอกสารสำคัญ เนื่องจากเป็นเอกสารที่ ถ่ายสำเนาจากต้นฉบับของกองจดหมายเหตุแห่ง ชาติและผนึกผ้าเป็นอย่างดีจึงไม่มีปัญหา การอ่านการใช้
7. สถานที่เก็บรักษา ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม สถาบันราชภัฎสกลนคร