ประเพณีของชาวจังหวัดปทุมธานี
ประวัติส่วนตัวผู้ให้สัมภาษณ์
ชื่อ นายวีระวัฒน์ นามสกุล วงศ์ศุปไทย
ที่อยู่ ๕ หมู่ ๓ ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี๑๒๑๖๐
โทรศัพท์ ๐๘-๗๐๒๙-๒๘๖๔
การศึกษา จบชั้นปริญญาตรี จาก มศว.บางเขน เอกประวัติศาสตร์
อาชีพ รับราชการครู
๒. ชื่อประเพณี ประเพณีกวนข้าวทิพย์
๒.๑ ช่วงเวลาที่จัด ไม่มีเทศกาลที่แน่นอน
๒.๒ ประวัติความเป็นมา ผู้สูงอายุหลายท่านกล่าวว่าข้าวทิพย์ คือ ข้าวมธุปายาส ที่นางสุชาดาเตรียมไว้เพื่อจะนำไปบวงสรวงเทวดา ระหว่างทางได้พบเจ้าชายสิทธัตถะนั่งสงบนิ่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ เพื่อแสวงหาโมกขธรรมอันเป็นทางดับทุกข์ทั้งปวง นางสุชาดาเห็นพระองค์มีรัศมีกายเปล่งปลั่ง จึงเกิดความเลื่อมใส และคิดว่าพระองค์เป็นเทวดา จึงถวายข้าวมธุปายาสแด่พระองค์ หลังจากพระองค์ได้เสวยข้าวมธุปายาสจนมีพระกำลังแข็งแรงดีขึ้น ก็ทรงทำความเพียรทางจิตต่อไปจนได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในวันพุธขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศก ๔๕ ปี ส่วนนางสุชาดา เมื่อตายไปก็ได้เกิดบนสวรรค์ เพราะได้ถวายข้าวมธุปายาสแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้พุทธศาสนิกชนเชื่อว่าถ้าได้ปรุงข้าวมธุปายาสถวาย พระสาวกของพระพุทธเจ้าก็จะได้บุญมากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
๒.๓ ความเชื่อที่เกี่ยวข้อง การกวนข้าวทิพย์ต้องมีโรงพิธีรั้วกั้นโดยรอบเปิดไว้เฉพาะทางเข้าและทางออก มีการนิมนต์พระมาสวดมนต์เย็น พอรุ่งขึ้นหมอปรุงข้าวทิพย์นุ่งขาวห่มขาวแบบพราหมณ์จะหุงข้าวด้วยน้ำมะพร้าวเบิกบายศรี วงสายสิญจน์ทำพิธีครู พอข้าวสุก หมอจะให้สาวพรหมจารีสามคนนำข้าวไปใส่กระทะซึ่งมีสายสิญจน์ และยันต์แผ่นสี่เหลี่ยมขนาดโตกว่าฝ่ามือติดห้อยอยู่เหนือกระทะ ประมาณ ๒ เมตร บนเพดานยังมีผ้ายันต์ผืนใหญ่ปิดไว้ เมื่อใส่ข้าวลงกระทะก็จะเริ่มพิธีกวน โดยผู้ช่วยหมอเอาส่วนประกอบอื่นๆ ผสมลงในกระทะ ชาวบ้านที่ไปร่วมพิธีก็จะทยอยเข้าไปในโรงพิธี โดยมีข้อห้ามไม่ให้บุคคลเหล่านี้เข้าไปยังโรงพิธี คือ สตรีมีประจำเดือน คนที่เป็นโรคสังคมรังเกียจ และคนมึนเมาครองสติไม่ได้ ระหว่างที่กวนมีการร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน (เดี๋ยวนี้มีการรับกวนเป็นอาชีพ โดยคุณบุญส่ง โพธิ์สูงและลูกหลาน) เมื่อกวนจนได้ที่แล้ว โดยใช้เวลากวนประมาณหนึ่งวันเต็มจึงนำไปถวายพระสงฆ์ ก่อนจะนำที่เหลือแจกจ่ายชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบ้านจะนำไปเก็บไว้บูชาเป็นมิ่งขวัญ ต่อไป
๒.๔ คุณค่าของประเพณี พิธีกวนข้าวทิพย์เป็นพิธีที่ต้องใช้สถานที่กว้าง ใช้ทุน และกำลังคนจำนวนมากร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมเงินกันจึงจะเกิดความสำเร็จทำให้เกิดความสามัคคีในชุมชน
๒.๕ การสืบทอดประเพณี ปัจจุบันประเพณีการกวนข้าวทิพย์พอจะหาชมได้ตามวัดต่างๆ ทั้งวัดไทย และวัดไทยรามัญ เนื่องจากได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย จึงมีทั่วไปทุกวัด
๒.๖ สถานที่จัด ประเพณีกวนข้าวทิพย์ต้องใช้บริเวณกว้างในการทำพิธี จึงนิยมทำกันที่วัดมากกว่าทำที่บ้าน
๓. ภาพถ่าย