เมืองแพร่ถือเป็นประตูสู่ล้านนา เพราะเป็นเมืองที่อยู่ใต้สุดของอาณาจักร ดังนั้นวัฒนธรรมของชาวแพร่จึงมีการผสมผสาน ทั้งแบบของชาวแพร่ที่อยู่เดิม และกลุ่มผู้ที่ปักหลักมาทำงานค้าขาย และชนชาติอื่นๆ ที่มาทำป่าไม้ทำให้อาหารของเมืองแพร่มีความหลากหลาย ทั้งอาหาร
แบบล้านนา อาหารของชาวไทยพวนและชาวเงี้ยว ซึ่งในเล่มนี้จะเน้นไปที่อาหารล้านนาแบบชาวแพร่ และอาหารของชาวไทยพวนอาหารของคนเมืองแพร่มีเอกลักษณ์ ต่างจากอาหาร
เหนือของที่อื่นๆ คือ อาหารเมืองแพร่จะใช้ปลาร้าให้รสเค็มแทนนำปลา และไม่นิยมใช้กะปิเหมือนที่อื่นๆในการทำพริกแกง ทำให้อาหารแพร่มีกลิ่นและรสที่เป็นเอกลักษณ์
นอกจากนี้ เครื่องที่ใส่ในพริกแกงก็มีความแตกต่างเล็กน้อยเพราะอาหารเมืองแพร่นิยมใส่มะแขว่นลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับแกงและลาบ มะแขว่นหรือลูกระมาศถือเป็ภูมิปัญญาอย่างหนึ่งของคนแพร่ เพราะเป็นสมุนไพรที่สามารถช่วยย่อยเนื้อ มีสรรพคุณในการฆ่าพยาธิ ดังนั้นอาหารจานที่ปรุงจากเนื้อสัตว์ดิบ หรืออาหารจานที่มีเนื้อมากๆ มักจะใส่มะแขว่นด้วยเสมอ นอกจากนี้อาหารทั้งหลายของชาวเมืองแพร่นั้นมักใช้พืชผักสมุนไพรที่มีในท้องถิ่นประกอบอาหารตามฤดูกาล ดังนั้นจึงมีอาหารพิเศษตามฤดูกาล อาทิเช่น ในฤดูแล้งพื้นที่สะโตกหรือ
ขันโตก จะมี ไข่มดแดง ไข่แมงมัน ผักหวานป่า ผักเสี้ยว หรือผักชงโค ยอดแซ่ว ส่วนฤดูฝนที่อุดมไปด้วยความชื้นเห็ดป่าต่างๆ เห็ดถอบ และหน่อไม้หวานๆ จะเป็นพระเอกของฤดู ส่วน งวม สะแล ผักเฮียก สะเลียม (สะเดา) เห็ดลม ก็เป็นอาหารยอดนิยมในฤดูหนาว
การกินอาหารตามฤดูกาล การใช้น้ำมันในการประกอบอาหารค่อนข้างน้อยและการใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามธรรมชาติ ทำให้อาหารเมืองแพร่นั้นเป็นอาหารที่มากด้วยโภชนาการ วัฒนธรรมการกินแบบนี้มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษหลายร้อยปี ก่อนสมัยนิยมในเรื่องอาหารสุขภาพปัจจุบันเสียด้วยซ้ำการจัดสำรับอาหารของชาวเมืองแพร่นั้นก็จัดใส่ขันโตกหรือสะโตกไม้ซึ่งปัจจุบัน
ใช้ถาดสังกะสีแทนเพราะน้ำหนักที่เบาดูแลรักษาง่ายและราคาถูก ส