ปลาแดก หรือ ปลาร้า เป็นภูมิปัญญาทางด้านการถนอมอาหารที่ชาวอีสานได้คิดปรุงวิธีการถนอมอาหารให้สามารถเก็บไว้ได้นานวัน ในฤดูกาลที่น้ำหลากในน้ำมีปลาในนามีข้าว เป็นฤดูฝน มีปลาน้ำจืดที่หาได้ง่าย ตามทุ่งนาช่วงเวลาหลังจากดำนาข้าวเริ่มเจริญเติบโตใบเป็นสีเขียวงอกงามในทุ่งนามีปลาช่อน, ปลากดุก, ปลาตะเพียน, ปลาหมอ และปลาอื่น ๆ ในแต่ละครอบครัวก็จะจับปลาโดยวิธีต่าง ๆ เช่น ตกเบ็ด มอง อวน แห ไซ สวิง หรือบางทีก็ทำสระเลี้ยงปลาโดยวิธีตามธรรมชาติ ในฤดูฝนมักจะจับปลาได้จำนวนมากชาวบ้านก็ใช้วิธีแก้ปัญหาที่มีปลามากมายเหลือกินขายก็ไม่ได้เพราะทุกครอบครัวก็มีเหมือนกัน จึงใช้ภูมิปัญญาแก้ปัญหา โดยในครัวเรือนมีเกลือ ความเค็มจะทำให้รักษาเนื้อปลาให้แข็ง ไม่เปลื่อยง่าย ใช้ความเค็มเก็บรักษาโดยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
อุปกรณ์ในการทำปลาร้าของชาวอีสาน
1. ปลาน้ำจืด 10 กิโลกรัม ถ้าไม่ถึงให้ลดตามส่วนส่วน
1. กาละมัง 1 - 2 ใบ เพื่อใส่ปลาและอุปกรณ์ในการทำปลาร้า
2. เกลือทะเล (ชาวบ้านเรียกว่าเกลือหมากเม็ก)
3. น้ำสะอาด 2 กิโลกรัม
4.รำข้าว ประมาณ 1 ถ้วยกาไก่
5.ข้าวขั้ว 1 ถ้วยกาไก่ (ใสเพื่อให้ปลาร้ามีรสหอมและทำให้สีปลาร้ามีสีแดงสวยน่ารับประทาน)
6.แกลบกลาง เล็กน้อยผสมกับรำกลาง
วิธีทำ
1. ล้างปลาให้สะอาด และเอาขี้ปลาออกให้หมด เพราะถ้าไม่เอาออกจะทำให้ปลาร้ามีรสชาดขมทำให้ปรุงอาหารไม่อร่อย
2. เมื่อล้างสะอาดลแล้วนำเกลือที่เตรียมไว้มาคลุกเคล้าให้ความเค็มของเกลือเข้ากับเนื้อปลา
3. หมักทิ้งไว้ประมาณ ห้าถึงเจ็ดวัน ในภาชนะที่เราเตรียมไว้
4. นำปลาที่หมักเตรียมไว้เก็บไว้ในไหผสมด้วยรำ แกลบกลาง ข้าวขั้ว ถ้าน้ำน้อยไปให้เติมน้ำพอประมาณเพื่อไม่ให้ตัวปลาเหนือน้ำ
5.ปิดไหสนิทด้วยจุกทิ้งไว้ประมาณ 1 ปี สามารถนำมาปรุงอาหารตามใจชอบ
(เทคนิคของความอร่อย ปลาร้าเอกลักษณ์ของคนชาวอีสาน ถ้าหมักปลาร้าต่ำกว่า 1 ปี ทำให้ปลามีกลิ่นคาว ดังนั้นควรหมักทิ้งไว้มากกว่า 1 ปี จะทำให้มีรสชาดกลมกล่อม อร่อย )