สมภารวัดทุ่งไหม้ เดิม คือ หมอชาย ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านไสยเวทย์ และเก่งกาจด้านการล่าเสือสมิง เมื่อภรรยา คือนางฟองเสียชีวิต จึงได้บวชหน้าศพเพื่อเป็นบุญกุศลแก่ตนเองและภรรยา พร้อมได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนทางพระพุทะศาสนา และออกธุดงค์พร้อมพระอาจารย์กั้น ต่อมาเกิดคิดถึงบ้าน จึงเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน เจอสภาพบ้านที่รกร้าง จึงปรึกษาพระอาจารย์กั้นว่าอยากจะสร้างวัดบนที่ดินของตนเอง เพื่อเป็นพุทธบูชา และเป็นบุญกุศลต่อตนเองและภรรยา พระอาจารย์กั้นเห็นด้วย พระชายจึงได้อุทิศที่ดินส่วนตัวเป็นสถานที่สร้างวัด โดยร่วมกับพระอาจารย์กั้นและชาวบ้านทำการสร้างและพัฒนาวัดเรื่อยมา และให้ชื่อวัดว่า “วัดทุ่งหม้าย” เนื่องจากพระชายมาบวชเพราะเป็นหม้ายภรรยาตาย เมื่อพระอาจารย์กั้นเห็นว่าพระชายมีความสามารถพอที่จะดูแลวัดโดยลำพังแล้ว จึงได้ออกธุดงค์หายเงียบไป ปล่อยให้พระชายดูแลวัดอย่างเต็มที่ ชาวบ้านจึงถือกันว่าพระชายเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด และเรียกพระชายว่า สมภารทุ่งไหม้ ต่อมาสมภารชายโดนเสือสมิงล้างแค้นและกัดจนมรณภาพ ชาวบ้านจึงฝั่งสรีระท่านไว้บนดอนในวัด และได้ปั้นรูปสมภารทุ่งไหม้โดยปั้นรูปเสือหมอบไว้ใกล้ๆ องค์ท่านด้วย เพื่อเป็นที่เคารพสักการบูชา