บัวรัตอุบล
บัวรัตอุบลเป็นอีกชนิดหนึ่งของบัวสาย หรืออุบลชาติ ฝรั่งเรียกว่า water lilyเป็นบัวอีกชนิดที่รู้จักกันแพร่หลาย มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Nymphaea อยู่ในวงศ์ Nymphaeaceaeชื่อนี้บ่งบอกความเป็นไม้น้ำได้อย่างดี เพราะคำว่า nymphหมายถึงนางไม้ซึ่งสิงสถิตอยู่ตามแม่น้ำ ต้นไม้ หรือภูเขาในเทพปกรณัมของกรีก บัวชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในเขตภูมิอากาศร้อน คนไทยเรียกบัวสายเพราะใช้ “สายบัว”หรือก้านดอกมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู บัวสายมีหลายพันธุ์ซึ่งมีลักษณะและสีสันต่างกันไป ล้วนมีชื่อเรียกไพเราะเพราะพริ้งในภาษากวีของไทย แตกต่างกันไป
บัวรัตอุบล มีดอกสีแดงขนาดเล็กกว่าสัตตบรรณ และสัตบุต กลิ่นหอมแรง
ชื่อวิทยาศาสตร์: Nymphaea pubescens Willd.
ชื่อวงศ์: Nymphaeaceae
ชื่อสามัญ: Red indian water lily
ชื่อพื้นเมือง: บัวสายขาว บัวสายแดง บัวสายสีชมพู รัตอุบล เศวตอุบล สัตตบรรณ เศวตอุบล
ลักษณะทั่วไป:
ต้น ไม้โผล่เหนือน้ำ อายุหลายปี จัดอยู่ในกลุ่มอุบลชาติ ลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้าสั้นๆ อยู่ใต้ดิน คล้ายหัวเผือก
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปไข่ค่อนช้างกลม ขนาด 25-30 เซนติเมตร ฐานใบหยักเว้าลึก ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อยใหญ่ หูใบเปิด ผิวใบด้านบนเรียบเป็นมันใบอ่อนสีแดงเลือดหมู ใบแก่มีสีเขียว ผิวใบด้านล่างถ้าเป็นใบอ่อนสีม่วง ใบแก่มีสีน้ำตาลมีขนนุ่มๆ เส้นใบใหญ่นูน ก้านใบสีน้ำตาล ยาวเท่าระดับน้ำที่ส่งแผ่นใบขึ้นมาลอยเรียงเป็นวงที่ผิวน้ำ
ดอก สีม่วงแดง ชมพู ชาว ออกเป็นดอกเดี่ยวจากเหง้า ก้านดอกสีน้ำตาลอวบกลมส่งดอกขึ้นลอยที่ผิวน้ำ กลีบเลี้ยง 4 กลีบ สีเขียวเหลือบน้ำตาลแดง ดอกรูปครึ่งวงกลมถึงค่อนข้างกลม กลีบดอกจำนวนมากเรียงซ้อนกันหลายชั้น เกสรเพศผู้สีเหลืองหรือสีตามกลีบดอกจำนวนมาก ลักษณะเป็นแผ่นแบน มีอับเรณูเป็นร่องขนานตามความยาว รังไข่ขนาดใหญ่ติดกับชั้นของกลีบดอก เกสรเพศเมียติดกับรังไข่ด้านบนตามแนวรัศมี ก้านดอกสีน้ำตาล ดอกบานช่วงใกล้ค่ำถึงตอนสายของวันรุ่งขึ้น ดอกบานเต็มที่กว้าง 15-20 เซนติเมตรมีหลายพันธุ์มีชื่อเรียกต่างกันไปตามสีชองดอกคือ
ดอกสีขาว เรียก โกมุท กมุท กุมุท เศวตอุบล
ดอกสีชมพู เรียก ลินจง
ดอกสีม่วงแดง เรียก สัตตบรรณ รัตตอุบล
ฝัก/ผล ผลสดค่อนข้างกลม เรียก “โตนด” มีเนื้อ
เมล็ด เมล็ดทรงกลมจำนวนมาก
ฤดูกาลออกดอก: ตลอดปี
การปลูก: เป็นไม้น้ำที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในโอ่งมังกร หรือในบ่อน้ำ วิธีปลูกทำได้โดยผสมดินและปุ๋ยคอกใส่ลงในกระถาง นำบัวลงมาปลูกในกระถาง ใช้ดินเหนียวหรือดินท้องนากลบทับเพื่อป้องกันดินและปุ๋ยคอกลอยขึ้นมา หลังจากนั้นก็นำไปวางในโอ่งปากกว้างใส่น้ำให้เต็ม ในกรณีที่ปลูกในบ่อ/บึงหรือในท้องนา ต้องนำหน่อที่แยกออกมาปักดำลงไปในดิน
การดูแลรักษา: เป็นพืชที่ชอบแดด การใส่ปุ๋ยใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 หรือ 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนชา ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์นำไปฝังบริเวณใกล้ราก โดยใส่ปุ๋ยประมาณ 2 ช้อนชาต่อเดือน
การขยายพันธุ์: เมล็ด หน่อ
การใช้ประโยชน์:
- ไม้ประดับ
- บริโภค
- สมุนไพร
- เครื่องสำอางค์ประทินกลิ่น
ส่วนที่ใช้บริโภค: ก้านดอก(สายบัว) รับประทานได้