วัดป่าแพงศรี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรงกันข้ามกับวัดพระธาตุที่ฝั่งลาว โดยอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 6 กม. เมื่อท่านได้เดินทางมาถึงนครพนมแล้ว ก็ต้องเดินทางต่อมายัง บ้านหนองจันท์ ตามถนนเรียบฝั่งโขงอีกประมาณ 5 กม. เส้นทางไปธาตุพนม และเมื่อถึงบ้านหนองจันทร์แล้วก็มุ่งสู่วัดได้เลยระยะทาง ประมาณ 1 กม.
ประวัติความเป็นมา วัดป่าแพงศรี แต่เดิมก่อนที่จะมาสร้างวัดนั้น เป็นที่ติดริมฝั่งแม่ น้ำโขงตรงกันข้ามกับวัดพระธาตุของฝั่งประเทศลาว ซึ่งเป็นบริเวณที่มีป่ารกปกคลุมทั่วไป โดยจะมีองค์พระธาตุเก่าแก่อายุประมาณ 2500 ปี โดยคาดว่าเป็นสถูปเจดีย์สร้างคู่กับเจดีย์ตรงกันข้ามกับเจดีย์ของฝั่งลาวคาดว่าเป็นเจดีย์อายุรุ่นเดียวกับองค์พระธาตุพนม ก่อตั้งอยู่แต่มิได้รับ การบูรณะปฎิสังขร คงปล่อยให้ผุพังตามกาลเวลามีเรื่องเล่าว่าบริเวณนี้มักมีสิ่งอาถรรพ์แปลกๆ เกิดขึ้นเสมอ จนทำให้ชาวบ้านแถวนั้นไม่ค่อยกล้าเข้าไปแถวนั้น เพราะในตอนกลางวันก็ดูมืดครึ้มแล้วคงสันนิฐานว่าบริเวณนี้คง เป็นเมืองเก่าในสมัยโบราณเพราะมักจะขุดพบเจอวัตถุโบราณประเภท จาน ไห บ่อยๆ เพราะมีหมู่บ้านถัดขึ้นไปชื่อบ้านเมืองเก่า ซึ่งคงจะเรียกชื่อตามการตั่งถิ่นฐานของคนสมัยโบราณ
ต่อมาหลวงพ่อประสิทธิ์ ท่านได้มาปักกลด(พ.ศ. 2535) ณ.ที่แห่งนี้และแผ่เมตตาให้แก่สรรพสิ่งที่อยู่แห่งนี้ เรื่องราวอาถรรพ์ ที่เกิดขึ้นจึงหมดไป ชาวบ้านจึงขออนุโมทนาท่านสร้างวัดป่าแพงศรีขึ้นมา เพื่อเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม และศูนย์รวม น้ำใจและความสามัคคีประจำหมู่บ้านขึ้น
ปัจจุบัน วัดป่าแพงศรีก็มีความรุดหน้าเป็นลำดับ จากที่เป็นเพียงท้องนาและป่ารก เดี่ยวนี้ก็มีศาลาธรรมซึ่งแล้วเสร็จแล้ว หอกลอง หอระฆัง นับว่าหลวงพ่อเป็นพระที่เคร่งครัดทางสายวิปัสสนากรรมฐานโดยแท้และยังเป็นพระนักพัฒนา สามารถทำให้วัดป่าแพงศรีก้าวหน้าได้มาจวบจนทุกวันนี้ ปัจุจันมี พระอาจารย์ ประสิทธิ์ ธิตธรรมโม (ธ.ย.) เป็นเจ้าอาวาสวัด