บทนำ

พื้นที่รอยต่อเขตอำเภอฆ้องชัย 3 จังหวัด ขาดน้ำเพื่อใช้บริโภคเพราะน้ำใต้ดินเค็ม เป็นน้ำสนิมออกสีเหลือง แต่ก็มีแหล่งน้ำจืดใต้ดินสะอาดรสอร่อยแห่งเดียวที่บ้านเหล่าแดง ราษฎรหัวไวใจสู้รวมญาติลงทุนใช้แรงคนขุดลึกร่วม 20 เมตรทะลุชั้นดินดาน ชั้นดินเหนียว จนถึงชั้นดินทรายขาวเจอตาน้ำไหลพุ่งออกมาหล่อเลี้ยงประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดมหาสารคาม แก้ภัยแล้งประสบความสำเร็จ

บทสัมภาษณ์ นายอำเภอฆ้องชัย

นายณัฐวุฒิ วีระชุนย์ นายเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า อำเภอฆ้องชัยมี 5 ตำบล 48 หมู่บ้านเป็นพื้นที่เมืองอู่ข้าว อู่น้ำ สภาพพื้นที่ติดลำชี มีคลองชลประทานหล่อเลี้ยงพื้นที่กว่า 27.41 ตารางกิโลเมตร แต่ขาดน้ำเพื่อบริโภค เพราะน้ำใต้ดินเค็มและเป็นน้ำสนิมสีเหลืองไม่สามารถนำไปทำน้ำบาดาล และน้ำประปาเพื่อบริโภคได้ ถึงจะนำน้ำจากลำน้ำชีมาทำเป็นน้ำประปาในหมู่บ้านแต่ก็ยังไม่สะอาดเพียงพอ ราษฎรอาศัยซื้อโอ่งดินเก็บน้ำฝนไว้ดื่มบางครอบครัวก็ไม่เพียงพอ จึงหาซื้อน้ำดื่มจากบ่อน้ำใต้ดินเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เราตามไปดูแหล่งน้ำใต้ดิน ที่สะอาด รสอร่อยมีแห่งเดียว สร้างรายได้ให้กับเจ้าของพื้นที่เลี้ยงครอบครัวอยู่อย่างพอเพียงที่บ้านเหล่าแดง อำเภอฆ้องชัย

สัมภาษณ์นางใหม่ เครือวรรณ, นายสุทัศน์ แฝงจันดา , นายหมื่น เครือวรรณ และนายประพันธ์ เครือวรรณ

นางใหม่ เครือวรรณ บ้านเลขที่ 08 หมู่ที่ 7 บ้านเหล่าแดง ตำบลฆ้องชัยพัฒนา อำเภอฆ้องชัย กล่าวว่า อาชีพหลักคือการทำนา อาชีพรองคือการขายน้ำใต้ดินที่รสอร่อยมีชื่อเสียงร่วม 20 ปีแล้ว เนื่องจากพี่น้องประชาชนขาดน้ำดื่มจึงร่วมกับเครือญาติลงทุนจ้างแรงงานคน ขุดบ่อน้ำในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งบ้านเหล่าแดงน้ำใต้ดินมีไม่เหมืนกัน คุ้มทิศตะวันตก น้ำใต้ดินจะมีสีเหลือเป็นน้ำสนิม คุ้มทิศตะวันออกน้ำใต้ดินเค็ม ในหมู่บ้านสามารถขุดบ่อน้ำใต้ดินได้แค่ 5 จุด เช่นจุดพื้นที่ของตนเอง มี 2 บ่อติดกัน ในหมู่บ้านมีบ่อน้ำบริเวณวัด บ่อน้ำนายดาว บ่อน้ำนายแสวง บ่อน้ำนางใหม่ ซึ่งแต่ละบ่อเจ้าของพื้นที่จะนำน้ำใต้ดินออกไปขายในพื้นที่ขาดน้ำด้วยตนเองสร้างรายได้แบบพอเพียง

นายสุทัศน์ แฝงจันดา นายกเทศมนตรีตำบลฆ้องชัยพัฒนา อำเภอฆ้องชัย กล่าวว่า สำหรับบ้านเหล่าแดงนอกจะจะมีอาชีพทำนาแล้ว อาชีพรองคือการ ไพรหญ้าคาขายและขุดน้ำใต้ดินออกจำหน่ายสร้างรายได้ ซึ่งเทศบาลตำบลฆ้องชัยพัฒนาได้สนับสนุนอาชีพนี้อยู่ การขุดบ่อน้ำมีเป็นบางพื้นที่ ที่เป็นสายน้ำหรือชาวอีสานเรียกว่า “ตาน้ำ”ในพื้นที่เดียวกัน ยังขุดไม่พบน้ำเลย เราจะใช้แรงคนอาศัยค้อนเหล็กหัวแหลม(ชาวอีสานเรียกอีปิก) ขุด ลึกประมาณ 9 เมตรก็จะถึงหินดาน ขุดทะลุหินดานประมาณ 1.5เมตร ก็จะพบดินเหนียว ขุดทะลุดินเหนียวลงไปอีก 1.5เมตร ก็จะพบทรายขาว และมีตาน้ำถึง 3 ตา ไหลพุ่งออกมาอย่างแรง ลักษณะน้ำไสออกสีคราม สะอาดซึ่งผ่านการกรองจากชั้นทรายขาว ขุดครั้งแรก ประมาณ 9 เมตรจะพบน้ำ จะทำการขุดลงไปเลื่อยๆในช่วงเดือนเมษายน เพราะให้มีปริมาณน้ำใต้ดินมากขึ้นจนถึงปัจจุบันบ่อน้ำลึกประมาณ ร่วม 20 เมตรมีน้ำใต้ดินไหลออกมาหล่อเลี้ยงชีวิตชาวกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ตลอดทั้งปี

นายหมื่น เครือวรรณ บ้านเลขที่ 122 หมู่9 ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย ซึ่งเป็นพี่ชายของนางใหม่ กล่าวว่า ลักษณะบ่อเมื่อขุดแล้วก็จะนำท่อซีเมนต์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 170 เซนติเมตรลงในบ่อเพื่อป้องกันดินพัง โดยมีการนำสังกระสีสร้างเป็นโรงเรือนมีหลังคาคลุมบ่อน้ำ เพื่อป้องกันน้ำฝนชะล้างเศษฝุ่นละอองลงในบ่อ ส่วนบริเวณปากบ่อก็ใช้ตาข่ายในร่อนคลุมไว้อีกชั้นเพื่อป้องกันเศษวัชพืชหล่นลงในบ่อ โดยใช้สายยางสูบน้ำหย่อนลงในบ่อ เพื่อให้รถบรรทุกน้ำติดเครื่องสูบน้ำขนาด 2 นิ้วสูบขึ้นรถบรรทุกน้ำ โดยติดตั้งถังน้ำขนาด 1,500-2,000ลิตรต่อรถ 1 คัน

นายประพันธ์ เครือวรรณ เครือข่ายญาติพี่น้องขายน้ำใต้ดิน กล่าวว่า การนำน้ำใต้ดินไปขาย แต่ละคันสามารถบรรทุกน้ำในแต่ละวัน ประมาณ 5-10 เที่ยวต่อวัน ถ้าเป็นเครือญาติก็จะคิด รถละ 20 บาท ราคาขายน้ำ 1 คันรถ ขายในบ้านเดียวกัน คิด 100 บาท ระยะทาง 4-5 กม. คิด 150 บาท ระยะทาง ไม่เกิน 15 กม. คิด 200-250บาท ถ้าข้ามไปเขตจังหวัดร้อยเอ็ดระยะทาง 20 กม. คิดราคา 300-350 บาทและแต่ระยะทางใกล้ไกล ต้นทุนคิดแค่ค่าน้ำมันตกวันละ 100-300บาทต่อคัน สามารถขายน้ำได้วันละ 600-1,000บาทต่อวัน แต่ละคันหักค้าน้ำมันออกแล้ว จะมีรายได้วันละ 300-700บาท ระยะการขายน้ำอยู่ระหว่าง เดือน ธันวาคม-เดือนเมษายน และขายน้ำได้มากที่สุดในช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำใต้ดินแห่งเดียวที่สะอาดรสอร่อย แก้ภัยแล้งได้ผลดีมาก

สนใจติดต่อ โทร. 089-2249772หรือ 089-6236600

ผู้สัมภาษณ์ นายโอภาส มั่นคง ผูสื่อข่าวเดลินิวส์, เสียงภูพาน