งานประเพณีบวชนาคช้าง
งานประเพณีที่สำคัญของชาวหมู่บ้านช้างตากลางและใกล้เคียงนั้นมีอยู่ ๒ งานด้วยกัน ได้แก่ งานบวชนาคช้างในเดือน ๖ (ประมาณเดือนพฤษภาคม) และงานแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์ ในเดือน ๑๒ (เสาร์ - อาทิตย์ที่สามของเดือนพฤศจิกายน) ที่ไม่ว่าชาวกวยหมู่บ้านช้างแห่งนี้จะอยู่แห่งหนตำบลใดของประเทศ ก็จะเดินทางกลับบ้านเพื่อมาร่วมงานประเพณีของตนอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
งานประเพณีบวชนาคช้าง จึงเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวกวยตั้งแต่อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่บ้านตากลางประมาณเกือบ ๒๐๐ ปีมาแล้ว ตามคตินิยมที่นับถือผีประกอบกับวิถีชีวิตที่ผูกพันกับช้างอย่างแนบแน่นเมื่อคนรุ่นหลังได้ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาเหมือนชาวพุทธทั่วไปในดินแดนแถบนี้จึงรวมความเชื่อและศรัทธาปฏิบัติเข้าด้วยกันอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มชนของตนเองด้วย การบวชนาคช้าง นั่นหมายถึงว่าในการที่ชาวกวยจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ เช่น พุทธศาสนิกชน ต้องมีขบวนแห่แหนนาคทุกองค์ด้วยการขี่ช้าง บางที่เรียกว่า ขี่ช้างแห่นาค แต่ชาวบ้านที่บ้านตากลางเรียกว่า งานบวชนาคช้าง เป็นงานประเพณีที่ภาคภูมิใจของชาวบ้านบ้านตากลางว่าเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมีขบวนช้างร่วมแห่นาคนับร้อยเชือก มีนาคร่วมแห่นับร้อยคน มีขบวนแห่ยาวไกลไม่น้อยกว่ากิโลเมตร
สาเหตุที่มีช้างเข้ามาเกี่ยวข้องในการบวชนอกจากเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชุมชนผูกพันกับช้าง เช่น ชาวกวย สุรินทร์และชาวไทยพวน ศรีสัชนาลัยแล้ว ยังเป็นคตินิยมสอดคล้องกับมหาชาติชาดก(กัณฑ์พระเวสสันดร) ที่กล่าวถึงว่า ภายหลังจากพระเวสสันดรเสด็จออกทรงผนวก ณ ป่าหิมพานต์ แล้วชาวเมืองสีพีต่างเข้าใจและอภัยให้ (ตอนแรกชาวเมืองสีพีไม่พอใจที่พระองค์พระราชทานช้างปัจจัยนาเคนทร์ซึ่งเป็นช้างสำคัญคู่เมืองแก่พราหมณ์เมืองกลิงคราษฎร์ไป) พระเจ้ากรุงสัญชัยได้จัดขบวนช้างขบวนม้าที่ตกแต่งอย่างสมพระเกียรติไปรับพระเวสสันดรเข้าเมือง