อุโบสถ (วัดนารังนก) สร้างเมื่อใดไม่ปรากฏ แต่ในอดีตพระอุโบสถวัดนารังนก สร้างโดยใช้หลังคามุงด้วยสังกะสี ต่อมามุงด้วยกระเบื้องดินเผาต่างบางๆ ตามลำดับมาสมัยหลวงพ่อยก ธมมฺทินโน ได้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัด ได้เริ่มสร้างอุโบสถหลังปัจจุบัน กว้าง 9เมตร ยาว18เมตร สูง21เมตร หลังคา2ชั้น สถาปัตยกรรมอลังการ และงดงามแบบศิลปวัฒนธรรมแถวตะวันตก (ยุโรป) ถ้าเทียบเท่าในสมัยปัจจุบันของไทย เทียบได้ในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ลงรากฐานด้วยก้อนหินแท่งเกาะยอ แท่งใหญ่ ๆ สมัยนั้นยังไม่มีรถและสะพานพลเอกเปรมที่ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ ด้วยแรงกายของพระเณร พายเรือไปเอาเป็นแรมเดือนพอเต็มลำเรือ จึงกลับมาก่อสร้างโบสถ์ต่อ ด้วยความลำบากยากเย็นด้วยความเพียร มีวิริยะ อุตส่าห์ด้วยแรงคนจึงได้สำเร็จเป็นรูปร่างโบสถ์ให้เห็นถึงปัจจุบันนี้ หล่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลังไม่เคยก่ออิฐแม้แต่ก้อนเดียว ไม่เคยใช้สายล่อฟ้า แต่ฟ้าไม่เคยผ่า เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อาถรรพณ์ และมหัศจรรย์ เพราะมีบารมีหลวงพ่อลิ้นดำคอยปกป้องรักษาตลอดเวลา และคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ บางคืนมีประชาชนขี่รถผ่านไปผ่านมา มองเห็นเป็นมังกรไฟพาดหลังคาโบสถ์เป็นแสงสว่างไสวเท่าต้นตาล ในสมัย พระอธิการแก้ว เป็นเจ้าอาวาสได้ทำไว้บางส่วน เช่น ตัวอาคาร มุงหลังคา เทพื้น หล่อฝาผนัง สมัยพระครูสิริเขมากร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้ทำช่อฟ้าใบระกาหน้าบันฐานพระประธาน ฉาบผิวด้านใน เขียนภาพพุทธประวัติบนฝาผนัง ทำสี ติดตั้งไฟฟ้า ใส่ประตู หน้าต่าง อุโบสถวัดนารังนกมีจุดเด่น คือ มีลวดลายประดับปูนปั้นรูปเทพพนมล้อมรอบด้วยลายกนก อยู่บริเวณหน้าบัน ผนังอุโบสถ วาดภาพจิตรกรรมชุดพุทธประวัติ ปัจจุบันยังมีการบูรูณะปฏิสังขรณ์อยู่อีกจำนวนมาก วัดนารังนก ได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.2387