พระสรณ์ ธรรมศาสน์ (เจ้าอาวาส) กล่าวถึงตำนานความเป็นมาของวัดไทรครั้งสมัยอดีตถึงปัจจุบันว่ามีความเจริญรุ่งเรือง เช่น วัดกลางเก่า วัดพระโยค และวัดไทร ล้วนแล้วแต่มีวัตถุโบราณหลายชิ้นที่มีการค้นพบ เป็นเมืองประวัติศาสตร์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงบันทึกว่าอาณาจักรศรีวิชัยมีความรุ่งเรืองจากหลักฐานพบก้อนอิฐ หิน ดินทราย และพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายในวัดไทร ปัจจุบันประดิษฐาน ณ พระอุโบสถใหม่ ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ. 2474 ส่วนปฎิมากรรมในสมัยรุ่นเดียวกับวัตถุโบราณที่ปรักหักพังได้เก็บรวบรวมไว้ใต้ฐานพระอุโบสถ
วัดไทรในอดีตเป็นที่รกร้างว่างเปล่ามีต้นไม้ใหญ่มากมายหลากหลายชนิดโดยเฉพาะต้นไทรซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัดมากว่า 60 ปี สภาพภายในวัดมีกุฎิทรงไทยเพียงไม่กี่หลัง พระอุโบสถหลังเก่าก็ชำรุดแต่ก็ยังพอเห็นร่องรอยของลวดลายของช่างฝืมือสมัยโบราณอาทิเช่นหน้าบรรณและฝาผนัง เป็นต้น อาณาเขตวิสุงคามสีของวัดไทรถ้าเปรียบกับสมัยปัจจุบันเรียกว่า วัดป่าหรือสำนักสงฆ์ แต่ช่วงตอนปลายกรุงศรีอยุธยาวัดไทรเป็นศูนย์กลางของการปฏิบัติธรรมแต่ปรากกว่าไม่มีการก่อสร้างหรือบูรณะถาวรวัตถุแต่อย่างใด ตั้งแต่ พ.ศ. 2465 เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้บูรณะปฎิสังขรณ์ให้อยู่ในสภาพรุ่งเรืองจนกระทั้งถึงปัจจุบันนี้