ศิลปิน ดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2543 สาขา ทัศนศิลป์ ด้านประติมากรรม
สล่า เพชร วิริยะ เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2498
ที่ อยู่ "บ้านจ๊างนัก" บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ที่ 2 ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ (053) 3446891,01-4725051
สล่าเพชร วิริยะ ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องช้าง สามารถถ่ายทอดเป็นผลงานแกสะลักช้างได้หลายรูปแบบ กลายเป็นช่างฝีมือและประกอบอาชีพแกะสลักไม้จนถึงปัจจุบัน และได้ฝึกสอนเยาวชนในหมู่บ้าน มีแนวความคิด ภาคภูมิใจอ่างยิ่งที่ได้ทำงานที่รักและชอบ ถือเป็นหน้าที่ช่วงหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรมครูคำอ้าย เดชดวงตา แล้วพัฒนาฝีมือและรูปแบงานและได้ถ่ายทอดสั่งสอนศิลปะวิชาช่างแจนงนี้ให้อยู่ ยืนยาวต่อไป และช้าง คือความยิ่งใหญ่ในตำนาน เรื่องราว รูปแบบและตัวตน ปี พ.ศ. 2528 สล่าเพชร วิริยะ ได้รวบรวมเพื่อนฝูง ตลอดจนลูกศิษย์ลูกหา ช่างแกะสลักฝีมือดีและมีความรักในศิลปะการแกะสลัก ไม้แบบล้านนามารวมตัวกันจัดตั้ง กลุ่มแกะสลักขึ้นมา และเมื่อปีพ.ศ.2531 คุณลุงประยูร จรรยาวงศ์ (2458) คอลัมน์นิสต์ชื่อดังแห่งหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐในขณะ นั้น ได้ให้เกียรติ มา เยี่ยม เยือน พร้อมกับตั้งชื่อบ้านว่า “บ้านจ๊างนัก” อันหมายถึงบ้านที่มีช้าง เยอะแยะมากมาย บ้านจ๊างนัก ได้มีการพัฒนารูปแบบการแกะสลักช้าง จากเดิมที่ช่างแกะจะมีการแกะสลักแบบ ตายตัว รูปแบบจะซ้ำกัน มาเป็นการแกะสลักช้างที่ดูมีชีวิตชีวา มีท่าทางท่วงทำนองที่เหมือน ช้างจริง ๆ ซึ่งนับเป็นแห่งแรกที่มีการแกะสลักช้าง รูปแบบนี้ บ้านจ๊างนักยังเป็นแห่งแรกที่มีการทดลองนำวัสดุใหม่ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นมาทดแทนวัสดุเดิม ที่นับวันมีแต่จะหายากมากขึ้น เช่น มีการนำเอาไม้ขี้เหล็กมาทดแทนไม้สัก ซึ่งประโยชน์เพียงอย่างเดียวของไม้ขี้เหล็ก ในสมัยก่อน คือนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น และผลที่ได้จากการนำมาแกะสลักพบว่า ไม้ขี้เหล็กเป็นไม้เนื้อแข็งมากการแกะค่อน ข้างยากกว่าไม้สัก แต่ผลงานที่ออกมาจะสวยงาม และสีเป็นธรรมชาติ นอกจากการทดลองเรื่องของไม้แล้ว ยังมีการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอด กันมามาประยุกต์ใช้ กับงานแกะสลัก นั่นก็คือ นำเอาลูกมะเกลือที่ใช้ในการย้อมผ้า มาย้อมสีไม้ซึ่งก็ให้สีที่เป็นธรรมชาติและ ไม่มีสารพิษตกค้างเป็นอันตราย ต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม และเมื่อปี พ.ศ. 2546 บ้านจ๊างนัก ก็ได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น สังกัด เอกชน ยังผลให้เป็นที่รู้จัก กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ ที่มีความสนใจในศิลปะแขนงนี้ นอกจากนี้ หนึ่งในความภาคภูมิใจของสล่าบ้านจ๊างนักทุกคนคือ การที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ผู้คน ได้เกิดความรัก หวงแหน และ ตระหนักถึงความสำคัญ และปัญหาของ ช้างไทยในปัจจุบัน และร่วมกันอนุรักษ์ช้างไทยให้อยู่คู่กับคนไทยอีกนานเท่านาน