ข้าวต้มมัดเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของนางสาวแวซง แวดือราแม ตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๙๘ หมู่ที่ ๗ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ในสมัยก่อนคนโบราณนิยมนำข้าวต้มมัดไปถวายพระในวันเข้าพรรษาและออกพรรษา ความเชื่อถือที่สืบเนื่องและพูดต่อกันมาคือ ถ้าชายหนุ่มและหญิงสาวคนใดทำบุญด้วยข้าวต้มมัดแล้วนั้น คู่ครองและเรื่องของความรักทั้งคู่จะอยู่นานตลอดกาล เหมือนข้าวต้มมัดที่มัดเข้าด้วยกัน ๒ อัน เปรียบเสมือนชายหญิงคู่หนึ่ง ตอนในสมัยโบราณนั้นข้าวต้มมัดยังไม่มีใส่อะไรห่อมีเพียงแต่ข้าวเหนียว ต่อมาได้มีการพัฒนานำใส่มาใส่ คือ กล้วย และกล้วยที่เหมาะแก่การนำมาทำไส้ คือ กล้วยน้ำว้า เพราะมีขนาดพอดีกับข้าวต้มมัดและเป็นกล้วยที่สุกยากเมื่อนำมานึ่งแล้ว เวลาการนึ่งที่ทำให้ข้าวเหนียวสุกกับเวลาที่ทำให้กล้วยสุกนั้นใกล้เคียงกัน คนโบราณจึงเลือกกล้วยน้ำว้า ต่อมาได้มีการทำลูกโยนขึ้นพร้อมกับข้าวต้มมัดเพราะ บางทีการทำข้าวต้มมัีดอาจเหลือข้าวเหนียว จะทิ้งก็เสียดายเลยมาทำเป็นลูกโยน โดยมีแต่ข้าวเหนียวอย่างเดียวไม่มีไส้ เมื่อห่อเสร็จก็จะมัดด้วยตอกที่ทำขึ้นจากไม้ไผ่ที่เหลาบางและนำไปนึ่งในซึ้ง
ส่วนผสม
๑. ข้าวเหนียวเขี่ยวงู ๒ กิโลกรัม
๒. หัวกะทิข้นๆ (จากมะพร้าว ๒ ก.ก.) ๕ ถ้วย และหางกะทิ ๑ ถ้วยครึ่ง
๓. เกลือป่นไทย ๔๐-๕๐ กรัม
๔. น้ำตาลทรายขาว ๘๐๐ กรัม
๕. ถั่วดำต้มสุก ๑/๒ กิโลกรัม
๖. กล้วยน้ำว้าสุกงอม ๒ หวี
วิธีทำ
๑. ซาวข้าวเหนียว ๑ ครั้ง แช่ข้าวเหนียวโดยใส่น้ำให้ท่วม แช่ไว้ประมาณ ๓ ชั่วโมง
๒. ผสมหัวกะทิ หางกะทิ เกลือ น้ำตาลทราย รวมกัน คนให้น้ำตาลทรายละลาย เทใส่ในข้าวเหนียว
๓. เทส่วนผสม (ในข้อ ๒.) ใส่ในกระทะทอง ตั้งไฟกวนพอแห้ง ยกลง
๔. ฉีกใบตองกล้วยน้ำว้า (ใช้ใบตองอ่อน) ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหมาดๆ ให้สะอาด (ใบนอก ฉีกใบตองกว้าง ๗ นิ้ว ยาว ๘ นิ้ว ใบในฉีกกว้าง ๕ นิ้วครึ่ิง ยาว ๖ นิ้วครึ่ง) เจียนใบตองหัว, ท้าย นำใบตองใบในวางซ้อนบนใบตองใบนอก โดยวางกลับหัว, กลับท้าย เข้าหากัน
๕. หยิบข้าวเหนียวแผ่บางๆ วางบนใบตอง เรียงถั่วดำต้มสุก วางกล้วยน้ำว้าตรงกลาง หยิบข้าวเหนียวแผ่ทับบนกล้วย ห่อใบตอง จับจีบหัวและท้ายใช้ตอก แช่น้ำมัดประกบกันให้แน่น
๖. นำข้าวต้มมัดเรียงใส่ลังถึง นึ่งให้สุก ไว้เวลา ๒ ชั่วโมง