ตำนานวัดม่อนกระทิง
ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสกับท้าวสักกเทวราชและพระเจ้ามัลละราชว่า ดูก่อนมหาบพิตร ถ้าเราตถาคตเสด็จเข้าสู่ปรินิพพานแล้ว ท่านทั้งหลายจงนำเอาอัฐิธาตุแห่งองคุลี (นิ้วมือ) เบื้องซ้ายของเรามาบรรจุไว้ที่นี้ เพราะสถานที่นี้เราตถาคตเคยอยู่มาในบรรพชาติกาลก่อน เมื่อเสวยชาติเป็นวัดผู้พระราชา มีชื่อว่าวัวกระทิงคำ ได้เที่ยวไปหากินหญ้าอ่อนตามริมหนองพร้อมด้วยบริวารเผอิญได้ถูกพรานป่ายิง จึงได้พาบริวารหนีไปจากหนองนั้นด้วยความเจ็บปวดไปพบสระหนองแห่งหนึ่งและกินหญ้าได้ ๒ –๓ ฟ่อน เกิดจุกขึ้นกินหญ้าต่อไปไม่ได้ และได้รำพึงปลงสังขารในใจฝากทรัพย์สมบัติทั้งหมดไว้กับเทวดา เสร็จแล้วก็ได้สิ้นชีวิต ณ ที่นั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสต่อไปวา ในอนาคตกาลเบื้องหน้าชนทั้งหลายจักพากันเรียกหนองที่โคตัวนั้นนำบริวารไปกินหญ้านั้นว่า “หนองกระทิง” แต่สระหนองที่วัวนั้นล้มตายจักได้ชื่อว่า “หนองไขวัวเฒ่า” เพราะวันนั้นได้ปลงอายุสังขารที่นั้นและโลหิตไขมันของวัวนั้นได้ไหลไปรวมที่สระหนอง
การก่อสร้างวัดม่อนเขาน้อย(ม่อนกระทิง)
มีพระเถระองค์หนึ่งได้เที่ยวจาริกมาถึงดอยนี้ได้บำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานที่นี้ มีชายหญิงแก่ ๒ ผัวเมียได้อุปฐากพระเถระด้วยของเคี้ยวของฉันและได้สร้างกฎิพร้อมโรงจงกรมถวาย คืนหนึ่ง รุกขเทวดาได้เข้าไปนิมิตฝันบอกทั้ง ๒ ผัวเมียว่า หากท่านทั้งหลายอยากขึ้นสวรรค์และอยากถึงพระนิพพานให้นำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้นมัสการพระพุทธรูปและพระเจดีย์อันตั้งอยู่บนดอยนั้นเถิด พอตื่นก็ไปไว้บูชาแต่พระพุทธรูปและเจดีย์ไม่มีตามฝัน จึงไปปรึกษาพระเถระเจ้าว่าควรสร้างพระพุทธรูปและเจดีย์ขึ้น ต่างก็ยินดีช่วยกันหาช่างปั้นอิฐช่วยกันก่อพระพุทธรูปเสร็จแล้วก็ก่อพระเจดีย์ครอบพระพุทธรูปอีกชั้นหนึ่ง เมื่อพระมหาเถระก่อขึ้นสูงเพียงพระโมลีของพระพุทธรูป ก้อนอิฐได้หักพระมหาเถระพลาดตกสลบไปนานครึ่งวัน ขณะที่สลบนั้นวิญญาณของท่านได้ไปปรากฏขึ้น ณ ลานแห่งพระเกตุแก้วจุฬามณีในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อท้าวสักกเทวราชทอดพระเนตรเห็นได้กล่าวว่าท่านยังไม่สมควรที่จะขึ้นมา ณ ที่นี้ ขออาราธนาท่านลงไปช่วย ๒ ผัวเมียก่อพระเจดีย์ให้เสร็จก่อนแล้วจึงค่อยขึ้นมา และได้กล่าวต่อไปว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่วิเศษเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเคยเสด็จไปในที่นั้น หลังจากกลับเข้าสู่ร่างเดิมแล้วก็ช่วยสร้างพระธาตุจนเสร็จ และได้ยกฉัตรขึ้น และป่าวร้องชนทั้งหลายมาประชุมแล้วนิมนต์พระสงฆ์มาจากที่ต่าง ๆ ประมาณ ๕๐๐ รูป ทำการฉลอง ๗ วัน ๗ คืน
วัดม่อนกระทิง
ตั้งอยู่เลขที่ ๑๗๖ หมู่ที่ ๖ ตำบลบ่อแฮ้ว อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง โทรศัพท์ ๐๘๗ ๑๙๒๘๓๘๘ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย โฉนดเลขที่ ๑๐๘๒๕ มีเนื้อที่ ๓๗ ไร่ ๑ งาน ๗๐ ตารางวา วัดม่อนกระทิงตั้งเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๐๐๐ อาณาเขตของวัดทิศเหนือติดกับค่ายลูกเสือ ทิศใต้ ติดทุ่งนา ทิศตะวันออกติดชุมชนบ้านม่อนกระทิง ทิศตะวันตกติดหมู่บ้านน้ำโท้ง อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญแบบล้านนา กุฏิ ปูชนียวัตถุมี เจดีย์บรรจุองคุลี (นิ้วมือ) เบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า มีบันไดนาค ๒ ด้าน ด้านทิศตะวันตกเป็นบันไดเก่าแก่ขณะนี้ชำรุดใช้การไม่ได้ ส่วนด้านทิศตะวันออกมีบันได ๔๙ ขั้น ปัจจุบัน พระครูวิมลนพการ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดม่อนกระทิง วัดสังกัดตำบลบ่อแฮ้วเขต ๑