อนุสาวรีย์พระยาเสนาสงคราม ได้ก่อสร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี ที่ท่านได้ก่อร้างสร้างเมืองพุทไธสง ตั้งอยู่บ้านมะเฟือง ตำบลมะเฟือง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ มีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง คือ ในปลายสมัยกรุงธนบุรี พระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงมีรับสั่งให้พระยาจักรีทหารเอกคู่ใจ กรีฑาทัพไปปราบศึกที่นครเวียงจันทร์ โดยมีเพี้ยศรีปาก เพี้ยเหล็กสะท้อน เพื้ยไกรสรเสนา ร่วมไปในกองทัพด้วย พร้อมทั้งได้เกณฑ์ชายไทยจากบ้านโนนหมากเฟือง (บ้านมะเฟืองในปัจจุบัน) บ้านหนองหัวแฮต (บ้านศรีษะแรตในปัจจุบัน) ไปร่วมรบด้วย หลังจาดเสร็จศึกเวียงจันทร์ในครั้งนั้นแล้ว พระยาจักรีได้กวาดต้อนประชาชนชาวลาวติดตามมาด้วยเพื่อกลับกรุงธนบุรี ผ่านหนองคาย กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และเข้าเขตเมืองพุทไธสง (เดิมมีชื่อว่าผไทสรอง ฯปันเตียนสรอง หรือ เมืองพุทไธมาศ ตามแต่สำเนียงของชาวพื้นเมืองในสมัยนั้น ซึ่งเดิมเชื่อว่าเป็นที่ตั้งอาณาจักรขอม ดังจะเห็นได้จากโบราณสถานต่างๆ ล้วนเป็นฝีมือของขอมทั้งนั้น) พระยาจักรีได้มีบัญชาให้หยุดทัพที่ชายทุ่งหนองแสนโคตร ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้านศรีษะแรต ประมาณ 15 เส้น และอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้านมะเฟือง พร้อมทั้งได้สำรวจพื้นที่ใกล้เคียงพบว่ามีบ้านร้าง มีคูดินเป็นกำแพงเมือง และมีนำล้อมรอบตั้งอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารพอที่จะเลี้ยงไพร่พลทั้งกองทัพได้ แต่ในตัวเมืองเป็นซากปรักหักพังยากต่อการซ่อมแซมเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย จึงออกสำรวจอีกครั้งพบว่าในโนนหมากเฟืองเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมกว่า จึงสั่งให้สร้างหลักปักฐานอยู่ที่โนนหมากเฟืองนี้เอง ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า บ้านมะเฟือง ส่วนบึงที่อยู่ติดกับคูเมืองนั้นมีชื่อเรียกต่างๆ เช่น บึงบัวขาว บึงมะเขือ บึงฆ่าเข้ บึงแสนโย บึงเจ๊ก เป็นต้น
เมื่อพระยาจักรีเดินทัพกลับไปกรุงธนบุรี จึงได้นำเพี้ยศรีปากพร้อมด้วยบุตรชายทั้งสองติดตามไปด้วย เพื่อศึกษาจารีตประเพณีการปกครองบ้านเมือง และมีรับสั่งให้ศรีปากกลับมาปกครองดูแลคนที่บ้านโนนหมากเฟือง ส่วนพระยาจักรีได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้โปรดอภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และได้ทรงแต่งตั้งให้เพี้ยศรีปากเป็น "พระเสนาสงคราม" เป็นเจ้าเมืองพุทไธสง ยกบ้านโนนหมากเฟือง และบ้านหนองหัวแฮต ให้เป็นเมืองพุทไธสง ขึ้นกับมณฑลนครราชสีมา และทรงมีรับสั่งให้บุตรชายคนโตของพระเสนาสงคราม คือ พระยานครภักดี เป็นเจ้าเมืองแปะ (บุรีรัมย์) เป็นคนแรก
ประมาณปี พ.ศ.2358 ในสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้โปรดเกล้าให้พระเสนาสงครามเป็น "พระยาเสนาสงคราม" เมื่อพระยาเสนาสงครามถึงแก่กรรม บุตรชายคนเล็ก (สบกรุง เสนาสังข์) ได้ขึ้นครองเมืองพุทไธสงแทน มีลูกหลานสืบเชื้อสายของพระยาเสนาสงคราม มาหลายรุ่น จนถึงปัจจุบัน