ประวัติความเป็นมาวัดหงษ์
วัดหงษ์เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เช่นเดียวกับวัดทั่ว ๆ ไป ตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของคลองหันสัง บนพื้นที่ดิน 35 ไร่ ทิศเหนือและทิศใต้ติดต่อกับที่ตั้งบ้านเรือนของชาวบ้าน ทิศตะวันออกติดกับหนองตะพาน ทิศตะวันตกติดกับคลองหันสัง
วัดหงษ์เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้กลายเป็นวัดร้างอยู่นานพอสมควร เพิ่งจะมาบูรณะ ก่อสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2468 โดยพระอธิการแว่ว เป็นผู้นำ และได้รับวิสุงคามสีมาในครั้งหลัง เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2519 โดย กระทำพิธีผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2520
วัดหงษ์ เป็นที่บำเพ็ญกุศล ประกอบศาสนกิจ ของชาวตำบลหันสัง โดยเฉพาะหมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 5 จะมีเป็นส่วนมาก เดิมนั้น วัดหงษ์มีเสาหงษ์อยู่หน้าวัด เชื่อกันว่า ชาวบ้านน่าจะมีเชื้อสายมอญอยู่หลายครอบครัว ชาวพุทธวัดหงษ์ได้อุปถัมภ์บำรุงวัดและพระภิกษุสามเณรมาด้วยดี ทำให้มีอาคารเสนาสนะที่มั่นคง แข็งแรง สวยงาม เช่นเดียวกับวัดทั่ว ๆ ไป อีกทั้งยังมีต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีอยู่หลายต้น เช่น ต้นหว้า ต้นตะเคียน ต้นโพธิ์ เป็นต้น
ปูชนียวัตถุสำคัญของวัดหงษ์นั้น นอกจาก พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก 9 นิ้ว พร้อมพระอัครสาวกซ้ายขวา และพระพุทธรูปเก่าแก่ที่นำมาจากวัดร้างจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ยังมี "หลวงพ่อขาว" พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีการซ่อมแซมใหม่ ชาวพุทธวัดหงษ์ให้ความเคารพเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์กันมาก เมื่อขับรถผ่านก็จะบีบแตรสักการะ มีผู้นิยมมาบนบานขอพรกันมาก ของแก้บนที่นิยมกันคือ "ขนมปลากริมไข่เต่า" เคยมีการสร้างเป็นเหรียญหลวงพ่อขาวเป็นวัตถุมงคล ให้เช่าบูชาด้วยซึ่งก็ได้รับความนิยมมากพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ชาวพุทธวัดหงษ์ก็ได้ดูแลอุปถัมภ์วัด และพระภิกษุมาด้วยดีเสมอมา ทั้งเรื่องอาคารเสนาสนะ เรื่องอาหารบิณฑบาต และอื่น ๆ ทำให้วัดหงษ์ เจริญรุ่งเรือง และอยู่มาได้ด้วยดีไม่ขาดแคลน เป็นศูนย์รวมจิตใจ สร้างความรักความสามัคคีให้แก่ชุมชนเป็นที่ฝึกฝนอบรมจิตใจ สร้างบุญบารมี รวมทั้งมีศิลปะวัฒนธรรมอีกหลาย ๆ ด้านให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา สมควรอย่างยิ่งที่เยาวชน และคนรุ่นเราจะได้หันมาสนใจ ดูแล ศึกษา และสืบทอดภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไว้อย่าให้สูญหาย