วัดนักบุญปีโอที่ ๑๐ ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยทราย ตำบลพังขว้าง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ความเป็นมาของวัดนักบุญปีโอที่ ๑๐ ห้วยทรายตามคำบอกเล่าของนายจำนง ยงบรรทม มีความเป็นมาดังนี้ เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๖๐ นางภักดี เสมอพิทักษ์ ได้อพยพจากท่าแร่และได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งจากนายศักดิ์พงษ์ที่บ้านชลประทาน และครอบครัวของนางภักดีก็ได้อาศัยทำมาหากินกับชาวบ้านโนนชลประทาน เวลานั้นบ้านโนนชลประทานมีไม่กี่ครอบครัว ต่อมาภายหลังได้มีคริสตชนชาวท่าแร่อพยพมาอาศัยอยู่อีก ๕ ครอบครัวได้แก่ ครอบครัวนายศึก เสมอพิทักษ์ นายเลี่ยน พาพรหมฤทธิ์ นายโอย งอยกุดจิก เป็นต้น โดยมีมุขนายกมีคาแอลเกี้ยน เสมอพิทักษ์ เป็นผู้คอยติดตามดูแลและได้ซื้อที่ดินผืนใหญ่จำนวน ๓๐๐ ไร่จากนายศักดิ์พงษ์และได้จัดสรรให้คริสตชน จำนวน ๓๐ ครอบครัวเข้าดูแล ซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากท่าแร่ ทุ่งมนและป่าหว้าน ส่วนมากเป็นครอบครัวที่แต่งงานไม่ถูกต้องตามกฎของพระศาสนจักร เมื่อมีจำนวนคริสตชนเพิ่มมากขึ้น มุขนายกมีคาแอลเกี้ยนฯ จึงได้สร้างวัดหลังแรกขึ้นที่บ้านโนนชลประทาน โดยมีมุขนายกมีคาแอลเกี้ยนฯ ทำหน้าที่ดูแลกลุ่มคริสตชนเหล่านั้น ต่อมามุขนายกมีคาแอลเกี้ยนฯ เห็นว่าลักษณะภูมิประเทศที่บ้านชลประทานนั้นไม่สะดวกในการเดินทางเข้าไปเพราะตั้งอยู่ห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒ ถนนนิตโยมาก มุขนายกมีคาแอลเกี้ยนฯ จึงได้ซื้อดินอีกแปลงหนึ่งที่ติดกับทางหลวงแผ่นดินและได้สร้างวัดขึ้นเป็นวัดหลังที่ ๒ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านห้วยทราย โดยให้ชื่อว่า”วัดนักบุญปีโอที่ ๑๐ ห้วยทราย” ภายหลังสร้างวัดเสร็จเสร็จแล้วได้อพยพคริสตชนที่บ้านโนนชลประทานให้มาปลูกบ้านอยู่รอบๆ วัด แต่หลายครอบครัวก็ยังคงอยู่ที่เดิมและมาเข้าวัดที่ห้วยทราย พร้อมกันนี้คณะรักกางเขนแห่งท่าแร่ได้ส่งภคินีมาประจำที่วัดห้วยทรายคือภคินีชีวัน(ซิสเตอร์เยโน) และภคินีมาร์ธา(ซิสเตอร์ทา) ต่อมาวัดหลังที่ ๒ ได้ชำรุดทรุดโทรม มุขนายกมีคาแอลเกี้ยนฯ จึงได้สร้างวัดใหม่หลังที่ ๓ คือวัดหลังปัจจุบัน โดยมีบาทหลวงวัชรินทร์ ต้นปรึกษา มาทำหน้าที่ดูแลในปัจจุบัน อาชีพหลักของคริสตชนที่ห้วยทรายคือทำไร่ ทำนาและทำนา ฐานะค่อนข้างยากจน แต่ก็ยังคงดำรงตนเป็นคริสตชนที่ดีในการปฏิบัติศาสนา แม้จะอยู่ท่ามกลางพุทธศาสนา วัดนักบุญปีโอที่ ๑๐ ห้วยทราย มีเนื้อที่ดิน จำนวน ๒๐ ไร่ สัตบุรุษ จำนวน ๑๗ ครอบครัว จำนวนประมาณ ๑๒๐ คน ประกอบมิสซาทุกวันอาทิตย์เวลา ๐๗.๓๐ น. กิจการคาทอลิคคณะพลมารี (ข้อมูลจากหนังสืออัครสังฆมณพลท่าแร่-หนองแสง ประวัติ ข้อมูลและการดำเนินงาน)
328 
