เป็นประติมากรรมลอยตัว แบบปูนปั้นพระพุทธรูปประจำวันเกิด พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร สำหรับผู้ที่เกิดวันพุธ(กลางวัน) เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในอริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประคองบาตรราวสะเอว มีประวัติความเป็นมาเมื่อพระพุทธเจ้า ได้สำแดงอิทธิปาฏิหารย์เหาะขึ้นไปในอากาศต่อหน้าพระประยูรญาติทั้งหลาย เพื่อให้พระญาติผู้ใหญ่ได้เห็น และละทิฐิถวายบังคมแล้ว จึงตรัสเทศนาเรื่อง พระมหาเวสันดรชาดก ครั้นแล้วพระญาติทั้งหลายก็แยกย้ายกันกลับ โดยไม่มีใครทูลอาราธนาฉันพระกระยาหารเช้า ในวันรุ่งขึ้น ด้วยเข้าใจผิดคิดว่าพระองค์เป็นราชโอรส และพระสงฆ์ก็เป็นศิษย์ คงต้องฉันภัตตาหารที่จัดเตรียมไว้ในพระราชนิเวศน์เอง แต่พระพุทธองค์กลับพาพระภิกษุสงฆ์สาวก เสด็จจาริกไปตามถนนหลวงในเมือง เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ (ผู้ที่พึงสั่งสอนได้) อันเป็นกิจของสงฆ์ และนับเป็นครั้งแรก ที่ชาวเมืองกบิลพัสดุ์ได้มีโอกาสได้ชมพระจริยาวัตรขณะทรงอุ้มบาตรโปรดสัตว์ ประชาชนจึงต่างแซ่ซ้องอภิวาทอย่างสุดซึ้ง แต่ปรากฏว่า พระเจ้าสุทโธทนะพุทธบิดาทรงทราบเข้าก็เข้าใจผิดและโกรธพระพุทธองค์ หาว่าออกไปขอทานชาวบ้าน ไม่ฉันภัตตาหารที่เตรียมไว้ พระพุทธเจ้าจึงต้องทรงอธิบายว่า การออกบิณฑบาต เป็นการโปรดสัตว์มิใช่การขอทาน จึงเป็นที่เข้าใจในที่สุด วัดบ้านโคกกลาง หมู่ที่ ๑๗ ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม จึงได้สร้างพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรไว้ ที่บริเวณ ประตูทางเข้าวัดทางขวามือ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ผู้เกิดวันพุธ (กลางวัน) ได้สักการบูชา