ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 14° 59' 42"
14.9950000
ลองจิจูด (แวง) : E 103° 6' 11.9999"
103.1033333
เลขที่ : 162939
มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์
เสนอโดย บุรีรัมย์ วันที่ 5 ตุลาคม 2555
อนุมัติโดย บุรีรัมย์ วันที่ 5 ตุลาคม 2555
จังหวัด : บุรีรัมย์
0 1349
รายละเอียด

ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เดิมที่ดินแปลงนี้กองทัพอากาศใช้เป็นสนามบิน เมื่อเลิกใช้แล้วกองทัพอากาศก็ยกที่ดินส่วนทางด้านทิศตะวันตกให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์และสำนักเร่งรัดพัฒนาชนบทบุรีรัมย์ ส่วนด้านทิศตะวันออกได้มอบให้จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อเป็นสถานที่ตั้งของวิทยาลัยครูบุรีรัมย์

มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้เริ่มต้นก่อตั้งเป็น “วิทยาลัยครูบุรีรัมย์” ด้วยความต้องการของทางราชการและประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด (นายสุรวุฒิ บุญญานุสาสน์) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้เพื่อสนองความต้องการของประเทศชาติที่กำลังขาดแคลนครู วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2514 โดยได้รับงบประมาณ 2515 จำนวน 9 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารเรียน 1 หลัง หอพัก 3 หลัง โรงฝึกงาน 1 หลัง ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐาน ด้านถนน ไฟฟ้าและประปา เป็นต้น

การก่อสร้างวิทยาลัยครูบุรีรัมย์ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2514 คณะผู้ร่วมดำเนินการในระยะแรกคือ อาจารย์วิชชา อัตศาสตร์ (ต่อมาได้เป็นอาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการและอธิการคนแรกของวิทยาลัยครูบุรีรัมย์) อาจารย์ ดร.พล คำปังส์ , อาจารย์ณรงค์ วิชาเทพ และ ผศ.เจนวิทย์ ผาสุก วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ได้เปิดรับนักศึกษาครั้งแรกในปีการศึกษา 2515 โดยเปิดสอนนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.) มีนักศึกษาภาคปกติ 455 คน ภาคค่ำ 1,358 คน มีอาจารย์ประจำรุ่นแรก 44 คน ในปีการศึกษา 2516 วิทยาลัยได้เปิดสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.ชั้นสูง) ทั้งภาคปกติและภาคค่ำ

ในปี พ.ศ. 2519 วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ได้รับการยกฐานะให้เป็นวิทยาลัยครูตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นผลให้วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ได้เปลี่ยนชื่อตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดจากผู้อำนวยการเป็น “อธิการ” เปลี่ยนรูปแบบองค์กรทางวิชาการจากหมวดวิชาเป็นคณะวิชาและภาควิชา มีสำนักงานอธิการ มีการเปิดสอนตามหลักสูตรใหม่ของสภาฝึกหัดครู ซึ่งเปลี่ยนจากระบบ 3 ภาคเรียนมาเป็นระบบ 2 ภาคเรียน

ในปีการศึกษา 2521 วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ได้เปิดสอนระดับปริญญาตรี 2 ปีหลัง (ค.บ.) เป็นรุ่นแรก โดยเปิดสอนภาคปกติ 6 วิชาเอก คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคมศึกษา พลศึกษา ศิลปศึกษา และวิทยาศาสตร์ทั่วไป และได้เปิดระดับปริญญาตรี 2 ปีหลัง ให้กับครูประจำการในวันเสาร์-อาทิตย์ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2521 ด้วย โดยเรียกว่า “โครงการอบรมครูประจำการ” (อคป.) ในปีการศึกษาต่อมาได้เปิดศูนย์ให้การศึกษาสำหรับศูนย์ประจำการที่โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยจังหวัดร้อยเอ็ด
วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ได้เปิดหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต (ค.บ.) 4 ปี ครั้งแรกเมื่อปีการศึกษา 2524 วิชาเอกที่เปิด คือ ภาษาไทย และวิทยาศาสตร์ทั่วไป เปิดสอนหลักสูตรใหม่ในระดับ ป.กศ.ชั้นสูงอีก 3 วิชาเอก เช่น บรรณารักษ์ศาสตร์ พัฒนาชุมชน และสหกรณ์ พร้อมกับงดรับนักศึกษาในระดับ ป.กศ.

ปีการศึกษา 2527 มีการขยายฐานการศึกษาไปเป็น “เทคนิคการอาชีพ” ได้เปิดสอนเทคนิคการอาชีพระดับ ป.กศ.ชั้นสูง หลายสาขา คือ การอาหาร ก่อสร้าง กสิกรรม ศิลปกรรมเป็นต้น

ปี พ.ศ. 2527 ได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 ซึ่งพระราชบัญญัติใหม่นี้ให้อำนาจวิทยาลัยครูเปิดสอนวิชาอื่นนอกจากสายครุศาสตร์ ดังนั้น วิทยาลัยครูบุรีรัมย์จึงเปิดสอนวิชาการอื่นเพิ่มเติมทั้งในระดับอนุปริญญาและปริญญาตรีหลายสาขาวิชา เช่น สัตวบาล เศรษฐศาสตร์สหกรณ์ พัฒนาชุมชน เป็นต้น และปริญญาที่ผู้เรียนได้รับก็จะมี 3 สาขา คือ ครุศาสตรบัณฑิต (ค.บ.) ศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) และวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.)

ปีการศึกษา 2538 ได้มีพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏขึ้นมาใช้แทนพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู จึงได้เปลี่ยนชื่อ “วิทยาลัยครูบุรีรัมย์” เป็น “สถาบันราชภัฏบุรีรัมย์” ตำแหน่งอธิการเปลี่ยนเป็น “อธิการบดี” คณะวิชาเป็นคณะ หัวหน้าคณะวิชาเป็น “คณบดี” และสามารถเปิดสอนได้ถึงระดับปริญญาเอก โดยยึดหลักปรัชญาว่า “เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น” โดยพระราชบัญญัตินี้สถาบันราชภัฏบุรีรัมย์ได้ขยายฐานการศึกษา โดยเปิดโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ต้องการและจำเป็นต่อการพัฒนาท้องถิ่น และได้ เปิดสอนในระดับปริญญาโทในสาขาวิชาบริหารการศึกษาในปีการศึกษา 2541 ในปีการศึกษา 2542 ได้เปิดสอนเพิ่มอีกหนึ่งสาขา คือ สังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา ปีการศึกษาต่อมาได้เปิดอีกหลายสาขา ได้แก่ สาขาหลักสูตรและการสอน สาขาบริหารธุรกิจ สาขาวิจัยและการพัฒนาท้องถิ่น และสาขารัฐประศาสนศาสตร์

ในปี พ.ศ. 2547 มีพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏขึ้นมาใช้แทนพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์จึงมีฐานะเป็นนิติบุคคล การดำเนินการตามภารกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น มีสภามหาวิทยาลัย สภาวิชาการ สภาส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย และสภาคณาจารย์และข้าราชการพลเรือนเกิดขึ้น การแบ่งส่วนราชการของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย สำนักงานอธิการบดี คณะครุศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาการจัดการ สถาบันวิจัย สำนักศิลปะและวัฒนธรรม สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศและสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มีโครงการจัดตั้งคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานภายใน มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ราชพัสดุบริเวณตำบลปะคำและตำบลหูทำนบ ซึ่งเดิมอยู่ในความดูแลของสถานีวิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์บุรีรัมย์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 1,834 ไร่ 1 งาน 32 ตารางวา และกระทรวงการคลังได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเมื่อเดินกรกฎาคม 2548 ซึ่งมหาวิทยาลัยกำลังดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อจัดสร้างเป็นวิทยาเขต โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาไปสู่ท้องถิ่นตามปรัชญาของมหาวิทยาลัย

สถานที่ตั้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์
เลขที่ 439 ถนน จิระ
ตำบล ในเมือง อำเภอ เมืองบุรีรัมย์ จังหวัด บุรีรัมย์
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
สนง.วัฒนธรรมอำเภอเมืองบุรีรัมย์
บุคคลอ้างอิง นางสุธิดา ไชยอุดม
ชื่อที่ทำงาน สนง.วัฒนธรรมอำเภอเมืองบุรีรัมย์
ตำบล ในเมือง อำเภอ เมืองบุรีรัมย์ จังหวัด บุรีรัมย์ รหัสไปรษณีย์ 31000
โทรศัพท์ 0818745835
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่