หลวงพ่อหรหม ฯอดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมประสิทธิ์ เป็นพระแถระผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรม และเป็นผู้ทีมีคุณพิเศษประจำตัว เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งสัจจะวาจา เพราะท่านมีเพดานลิ้นดำ พูดสิ่งใดมักเป็นอย่างนั้นเสมอ เป็นพระเถระที่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์สามารถสั่งกระสุนปืนได้ ปัดเป่าสิ่งลางร้ายให้กลายเป็นดีได้ เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ฯลฯ
หลวงพ่อพรหม ฯ เป็นชาวบ้านเกาะโดยกำเนิด บิดาชื่อนายดี มารดาชื่อนางดำ เกิดในปี พ.ศ. ๒๓๙๙ มีพี่น้องรวม ๔ คน พี่สาวคนโตชื่อแม่ชีพ่อม ท่านเป็นคนที่ ๒ และมีน้องสาว ๒ คน ชื่อนางอิน และนางทองจันทร์ ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กของท่านได้ตามบิดาขึ้นไปทำสวนที่เขาโต๊ะชูด บ้านทุ่งคล้า อำเภอสายบุรี ได้วิชาอาคมเสกเป่ากระสุนปืนจากมาจากนายตำรวจคนหนึ่ง ท่านเคยเล่าให้มโนราห์แคล้วบ้านทุ่งใหญ่ฟังว่า “ในช่วงที่ท่านทำสวนอยู่ที่นั่น มีหมูป่าตัวใหญ่มาก ชาวบ้านเรียกว่าดาตูลูกช้างออกมาอาละวาดทำลายพืชผลในแถบนั้น ท่านและชาวบ้านได้ช่วยกันออกล่าก็ไม่สำเร็จหาหมูป่าไม่พบคงเห็นรอยเท้าเท่านั้น ท่านจึงเสกกระสุนปืนยิงลงบนรอยเท้าหมูป่านั้นแล้วบอกพรรคพวกที่ไปด้วยกันว่าวันพรุ่งนี้ค่อยมาหามหมูป่ากันที่นี่ ครั้นรุ่งเช้าปรากฎว่า ดาตูลูกช้างตัวนั้นถูกกระสุนปืนนอนตายอยู่ที่นั่นจริงๆ” ท่านเริ่มพบลักษณะพิเศษประจำตัวแล้วจึงได้กลับมาอุปสมบทที่วัดเกาะราวปี พ.ศ. ๒๔๒๑ แล้วไปศึกษาเล่าเรียนที่จังหวัดสงขลา และได้วิชาเขี้ยวแก้วมาจากพระเถระรูปหนึ่งในจังหวัดนราธิวาสหลังจากนั้นได้กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดพรหมประสิทธิ์ (วัดเกาะ)
ในสมัยที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น หากมีคณะหนังตะลุงหรือมโนราห์ที่มาจากถิ่นอื่นผ่านทางวัดพรหมประสิทธิ์ จะต้องบรรเลงเครื่องดนตรีขึ้นเพื่อขอผ่านทาง มิเช่นนั้นจะมีอันเป็นไปไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ แม้แต่สัตว์ใหญ่จำพวกช้างถ้าควาญช้างไม่เข้าไปบอกกล่าวหลวงพ่อพรหม ฯ ก่อนช้างก็ติดหล่มอยู่บริเวณข้างวัดไม่สามารถเดินทางต่อไปได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์อาถรรพ์ที่เล่าต่อกันมาว่า ทุกๆ เดือน ๕ ของแต่ละปีจะเกิดไฟไหม้บ้านเรือนของราษฎรบ้านนือริงเป็นประจำปีละ ๑ – ๒ ครัวเรือน ชาวบ้านจึงมักเรียก“บ้านไฟกิน”(ไฟไหม้) หรือภาษาถิ่นมลายูเรียกว่า “กำปงฮางุ”เป็นที่หวั่นวิตกของชาวบ้านในแถบนี้มาก เพื่อเป็นการแก้อาถรรพ์ดังกล่าวชาวบ้านจึงได้ไปนิมนต์เจ้าอาวาสวัดพรหมประสิทธิ์ (วัดเกาะ) ในสมัยนั้นคือ หลวงพ่อพรหมฯ ซึ่งเป็นพระเถระที่มีวิชาอาคมแกร่งกล้า มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ท่านได้มาทำน้ำมนต์ปัดรังควานให้ หลังจากนั้นหมู่บ้านนือริงก็ไม่มีไฟไหม้อีกเลย
เรื่องเล่าต่างๆที่ได้กล่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านอีกมากมาย หลวงพ่อพรหม ฯ จึงเป็นที่เคารพบูชาของผู้คนโดยทั่วไปตลอดมา ท่านมรณภาพในราวปี พ.ศ. ๒๔๘๒ อายุประมาณ ๘๓ ปี
แม้เวลานี้ท่านจะล่วงลับไปหลายสิบปีแล้วก็ตามแต่ความศักดิ์สิทธิ์และคุณสมบัติพิเศษดังกล่าวยังเป็นที่ประจักษ์ของผู้เคารพนับถือโดยทั่วไป