ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : - ลองจิจูด (แวง) : -
เลขที่ : 163685
รำหางนกยูง
เสนอโดย สกลนคร วันที่ 9 ตุลาคม 2555
อนุมัติโดย สกลนคร วันที่ 5 พฤศจิกายน 2555
จังหวัด : สกลนคร
2 3296
รายละเอียด

การรำหางนกยูงกำเนิดมาแล้วเวลากว่า๑๐๐ ปีเศษ ใช้สำหรับรำบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหนองหารเพื่อประทานพรให้มีชัยชนะและความแคล้วคลาดจากภยันต์อันตรายในการจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันเรือยาวในเทศกาลออกพรรษาแห่ปราสาทผึ้ง ของจังหวัดสกลนคร
โดยปกติการรำชนิดนี้จะแสดงท่ารำบนหัวเรือแข่ง โดยมีผู้รำฝ่ายหญิงและชาย ท่ารำได้ดัดแปลงมาจากการรำไหว้ครูของนักรบก่อนออกชิงชัยในศึกสงครามในสมัยก่อน โดยรำอาวุธตามที่ตนเองฝึก คือ การรำดาบ รำกระบี่กระบอง เข้าจังหวะกลองยาวได้มีการดัดแปลงปรับปรุงท่ารำใหม่ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ท่ารำมีลีลาอ่อนช้อย เหมือนท่านกยูงรำแพน ใช้ประกอบกับดนตรีไทยและดนตรีพื้นเมืองได้ตามความเหมาะสมและได้ถือว่าเป็นท่ารำอันสวยงามที่นำมาถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในลุ่มหนองหารและสระพังทองของจังหวัดสกลนคร

ความเป็นมาของการรำหางนกยูงบนหัวเรือของชาวจังหวัดสกลนคร

เริ่มแรกเป็นการแสดงกายกรรมที่เป็นพื้นฐานการกีฬายิมนาสติก และมีทั่ว ๆ ไปคนแรกที่นำองค์ประกอบนี้มาพัฒนาจากการแสดงกายกรรมต้นตำหรับคือ อาจารย์ประสิทธิ์ บุณยารมย์ ซึ่งเป็นคุณพ่อของผู้อำนวยการเจน บุณยารมย์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสกลนครพัฒนศึกษา

ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ คุณตาจำลอง นวลมณี ได้ประยุกต์รำมวยโบราณใน ๔๐ ปีที่แล้วจากท่ารำ ๒๓ ท่าได้แก่

การรำหมู่มี ๙ ท่า คือ

๑. กาเต้นก้อนไถ ๒. ย่างสามขุม ๓. น้าวเฮียวไผ่ ๔.ไล่ลูกแตก ๕. ช้างม้วนงวง ๖. ทวงฮกกวักชู้ ๗. แหลวถลากาตากปีก ๘. แหลวถลากาตากปีก๙. เลาะเลียบตูบ

การแสดงเดี่ยวมี ๑๔ ท่ารำ คือ

๑. เสือออกเหล่า ๒. ย่างสามขุม ๓. กุมภัณฑ์ถอยทัพ ๔. ลับหอกโมกขศักดิ์ ๕. ตบผาบปราบมาร ๖. ทะยานเหยื่อเสือลากหางกวางเหลียวหลัง ๗. ไก่เลียบเล้า ๘. น้าวคันศร ๙. กินนรเข้าถ้ำ ๑๐. เตี้ยต่ำเสือหมอบ ๑๑. ทรพีชนพ่อ ๑๒. ล่อแก้วเมขลา ๑๓. ม้ากระทืบโลง ๑๔. ช้างโขลงละลายป่า

และการตีมวย นำมาประยุกต์เป็น ๘ ท่ารำ คือ

๑. ท่าพนมพรหมสี่หน้า คือ กราบไหว้ทั้ง ๔ ทิศ มีเทวดา พระอินทร์ พระพรหม และยมราช

๒. มรุราถวายแถน (พระญาแถน) ฟ้า ฝน ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไหว้ครู

๓. ดอกบัวตูมเป็นศิลปะท่ารำ

๔. ดอกบัวบาน

๕. นาคีม้วนหาง กริยาของนาคเล่นน้ำอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน

๖. กวางเหลียวหลัง กริยาของสัตว์ที่มีความสามารถและทักษะส่วนตัว

๗. ยูงรำแพน เลียนแบบนกยูงรำแพนหารคือ กริยาของนกยูงตัวผู้ที่จะเอาชนะใจตัวเมีย

๘. แกว่งแขนรอบทิศ (กังหันต้องลม) หรือแสดงทักษะในการร่ายรำ พิสูจน์ถึงความเข้มแข็ง ทักษะชำนาญ ถ้าไม่เก่งจริงตกน้ำแน่นอน

การฟ้อนหางนกยูงบนหัวเรือ หากเปรียบเทียบในยุค ๓-๔ ทศวรรษที่ผ่านมาหัวเรือที่เป็นอุปกรณ์ฐาน จากคอเรือถึงหัวเรือมีความกว้าง ๓๐-๕๐ ซม. คนที่ทำหน้าที่ร่านรำศิลปะหางนกยูงก็จะร่ายรำบนหัวเรือจริง ๆ

ปัจจุบัน การปรับเทคนิคแรงเสียดทานของหัวเรือก็จะมีการพัฒนาปรับแต่งให้เรียวเล็ก โดยช่างแต่งเรือจะตัดแต่งคอเรือให้มีลักษณะเหมือนคอไก่ เป็ด ห่าน หงส์ ออกเพื่อเป็นการลดการต้านน้ำ โดยปรับให้เล็ก เรียว แหลม (เหมือนหัวจรวด) จึงทำให้การรำหางนกยูงบนเรือไม่สามารถยืนอยู่ตรงจุดหัวเรือได้ จำเป็นต้องมารำบนคอเรือแทน

นวัตกรรมใหม่เชิงประจักษ์

การตกแต่งอุปกรณ์ หรือองค์รวมของการรำหางนกยูงบนหัวเรือ มีดังนี้

๑. คนรำหางนกยูงตัวผู้ (เป็นชาย)

๒. คนรำหางนกยูตัวเมีย (เป็นหญิง)

๓. คนรำหางนกยูงชุดนางรำ หางเครื่องและบริวารเป็นองค์ประกอบเรื่อง (กินรีเล่นน้ำ,ผาแดงนางไอ่)

๔. ดนตรีประกอบ คือดนตรีอีสาน มีแคน พิณ กลองตุ้ม พังอาด ฆ้อง กับแก๊บ ใช้เพลง ผู้ไทน้อย เป็นเพลงประกอบอีกส่วนหนึ่งของการรำหางนกยูงบนหัวเรือ

จุดประสงค์ของการร่ายรำ

๑. เพื่อนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุม หลวงพ่อองค์แสน อันเป็นที่สักการะของชาวสกลนคร

๒. เพื่อไหว้พระแม่คงคาที่ให้น้ำให้ท่าแก่ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน และให้เราได้กินได้ใช้ ให้ชุ่มฉ่ำ เย็นกายเย็นใจ

๓. เพื่อร่ายรำแสดงความยินดีปรีดาต่อการได้ชัยชนะจาการแข่งเรือ

หมายเหตุ

-การแข่งขันเรือยาวของชาวสกลนครมีมา ๑๒๒ ปี-ปัจจุบัน

-การแข่งขันกิจกรรมรำหางนกยูงบนหัวเรือเริ่มแรก คือ การฟ้อนรำ แสดงออกถึงความดีใจ ชัยชนะ ไม่มีท่ารำเป็นเอกลักษณ์

-ได้รับการพัฒนาท่ารำและริเริ่มจากครูประสิทธิ์ บุณยารมณ์ ประยุกต์จากลีลาของประเภทกีฬายิมนาสติก และครูจำลอง นวลมณีได้นำประยุกต์ท่ารำจากรำมวยโบราณ จาก ๒๓ ท่ารำเป็น ๘ ท่ารำ

-ได้พัฒนาและส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมประเพณีนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ จนถึงปัจจุบัน โดย

๑. หลวงปู่ภูพาน

๒. เทศบาลเมืองสกลนคร

สถานที่ตั้ง
ตำบล ธาตุเชิงชุม อำเภอ เมืองสกลนคร จังหวัด สกลนคร
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
เทศบาลเมืองสกลนคร
บุคคลอ้างอิง นายสถาป วงศ์สีดา
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร
ตำบล ธาตุเชิงชุม อำเภอ เมืองสกลนคร จังหวัด สกลนคร รหัสไปรษณีย์ 47000
โทรศัพท์ 042716247 โทรสาร 042716214
เว็บไซต์ http://province.m-culture.go.th/sakonnakhon/
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่