พระครูจันทโรภาส เดิมชื่อ จันทร์ นิ่มนุ่ม เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๕ เดือนยี่ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีขาล บิดาชื่อ นายม่วง มารดาชื่อ นางดอกไม้ มีพี่น้องรวม ๑๑ คน ท่านเป็นคนที่ ๒ เรียนพระธรรมที่เรียกว่า มูลกัจจายนสูตรกับพระอาจารย์เปลี่ยนจนจบสี่ผูก จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนสวรรคโลก สวรรควิทยา จนจบมูลบท ๑ - ๒ - ๓ ต่อมาได้รับคัดเลือกเข้าไปเรียนกฎหมายที่กรุงเทพฯ และได้รับราชการในตำแหน่งเสมียนตราปลัดซ้ายจังหวัดสวรรคโลกแต่ได้ลาออกมาบวช พออายุได้ ๒๒ ปี อุปสมบทที่วัดอนงคาราม จังหวัดธนบุรี (สมัยนั้น) ๙ ปี สอบได้นักธรรมโทและเรียนบาลีจนสอบได้เปรียญ ๕ โดยมีสมเด็จพุฒาจารย์ (นวม พุทธสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสารภาณกวี (ทองดี สิริจนโท) เป็นอนุสาสนาจารย์ และพระมหาเชื้อเป็นพระกรรมวาจารย์
ตำแหน่งพระสังฆาธิการ
๑. เจ้าอาวาสวัดป่าข่อย
๒. เจ้าคณะหมวดวังไม้ขอนและบางขลัง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕
๓. เจ้าคณะตำบลเมืองบางขลัง
๔. เจ้าคณะตำบลวังไม้ขอน
๕. เจ้าคณะตำบลวังพิณพาทย์
ผลงาน
๑. ขอที่ดินทำกินจากราชการ เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ยากไร้จำนวน ๕๐๐ ครอบครัว ๆ ละ ๕๐ ไร่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๕
๒. ด้านการแพทย์แผนโบราณ นำความรู้ในด้านการใช้ยาสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีและได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นสำนักพยาบาลสาขาวัดโพธิ์ใช้ชื่อว่า จันทโรภาสแพทย์สยาม
๓. ได้รับกระบี่พระราชทาน จากในหลวงรัชกาลที่ ๖
๔. จัดตั้งกองทุนมูลนิธิจันทโรภาส มอบให้นักเรียนยากจนเป็นประจำตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ เป็นต้นมา
การศึกษาค้นคว้าทางคาถาอาคมไสยศาสตร์
นอกจากท่านได้ศึกษาด้านธรรมะแล้ว ท่านยังศึกษาค้นคว้าทางคาถาอาคมไสยศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาหนึ่งที่ฝรั่งกำลังสนใจศึกษาอยู่ เรียกว่า พาราไซโคโรยี่ (PARAPSYCHOLOGY) การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ท่านสนใจและศึกษาตั้งแต่ยังเป็นฆราวาสแล้ว เพระโยมปู่ โยมลุง และโยมพ่อของท่าน ล้วนแล้วแต่เป็นและเคยศึกษากับเจ้าประคุณเสด็จพุฒาจารย์ (นวม) เพิ่มเติมอีก ท่านจึงสามารถนำวิชาความรู้ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ได้เป็นอย่างดี