กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่วนงานรับผิดชอบ กรมหม่อนไหมศูนย์วิจัยหม่อนไหม กลุ่มงาน แปรรูปหม่อนไหม

วัตถุประสงค์ในการตั้งกลุ่มงานเพื่อ สร้างอาชีพเสริมให้เกิดหารายได้ให้กับผู้เลี้ยงหม่อนไหม โดยการหาผลประโยชน์ ของต้นและทุกส่วนประกอบที่เกิดจาก ต้นหม่อนและตัวไหมเคล็ดลับ กรรมวิธีของการ จัดการกับใบหม่อนในการผลิดชาใบหม่อน(ใช้ใบหม่อนพันธุ์ บรีรัมม์ 60 หรือ นครราชสีมา 60 )

การทำ ชาใบหม่อนผง (ชงกับน้ำร้อน)

1. การเลือกใบหม่อน :เลือกใบที่ 2,3,4 นับจากยอด

2. หั่นให้ได้ ประมาณความบางเท่ากับ 0.5 เซนติเมตร

3. ลวกในน้ำร้อน 90 องศา เป็นเวลา 1 นาที จากนั้น พักในน้ำเย็น 2 น้ำ ในระว่างการพักในน้ำเย็นนั้น จะนวดให้ มีความอ่อน และจะนวดใบหม่อนอยู่อย่างนั้นประมาณ 20นาที ให้ใบหม่อนนั้น แห้งหมาด

4. นำไปตากแดดเพื่อให้มีไอความร้อนในตัวของใบหม่อนจากนั้น (ใช้เตาอบ หรือตู้อบนขมปังแทนการตากแดดได้ โดย อบในปริมาณความร้อนที่ 80 องศา นาน 1 ชั่วโมง “หากเป็นการนำใบหม่อนเข้าตัวอบ ขั้นตอนที่ 3 . ในระหว่างการนวดนั้น แนะนำให้ทำการนวด และปั่นให้เป็นลักษณะก้อน ๆ และเรียงใส่ถาด เตรียมเข้าตู้อบ”)

5. จากนั้นนำใบหม่อนทีได้มา รวมเก็บไว้ในซอง (ซองซีน ) เพื่อนำเข้าเครื่องปั่น**ในกรรมวิธีการ นำใบหม่อนนั้น มีการแบ่งการปั่น เป็น 2 แบบ คือ

1. เมื่อปั่นเสร็จจะต้องเก็บผงใบหม่อนที่เป็นผงลงซองบรรจุแบบซีน พร้อม บริโภค (ใบหม่อนผงแบบลักษณะ ผงสำเร็จรูปพร้อมชง เหมือนชงกาแฟ)

2. ปั่น3- 5 นาที จะได้ผงใบหม่อน เพื่อ บรรจุใส่ตัวบรรจุ จุ่มชง (เหมือนชาจุ่มชง)นอกจาก ผงใบหม่อน ยังมีงานแปรรูปอื่นๆ อีก คือ1. ดอกไม้ประดิษฐ์จากลำไหม2. ขนมชั้น ใบหม่อน , ขนมใส่ไส้ ,ขนมนมสาว

3. น้ำลูกหม่อน (เฉพาะต้นหม่อนพันธ์ บุรีรัมม์ 60 หรือ นครราชสีมา 60 เนื่องจากหม่อนพันธุ์เหล่านี้มีขนาดเล็ก ไม่นิยมรับประทานเป็นลูก ๆ )