ชื่อ วัดศรีชุม
อายุ สมัยสุโขทัย
ที่อยู่แหล่งที่ตั้ง เป็นโบราณสถานอยู่นอกกำแพงเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย
สถานภาพของสถานที่ เป็นโบราณสถานได้รับการบูรณะและดูแลโดยกรมศิลปากร
ความสำคัญในอดีต เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มาประชุมทัพก่อนที่จะยกทัพ ไปปราบเมืองสวรรคโลก อันเป็นต้นตอของตำนานเรื่อง พระพุทธรูปพูดได้ ที่เล่าขานกันต่อมา
สภาพทางภูมิศาสตร์ โบราณสถานตั้งอยู่บนที่ราบ
สภาพทางเศรษฐกิจสังคม -
ลักษณะเด่นทางวัฒนธรรม วัดศรีชุมมีสิ่งโดดเด่นคือ อุโมงค์ ในช่องผนังของมณฑป มีภาพจารลายเส้นบนแผ่นหินฉนวน เล่าเรื่องอดีตชาติต่างๆ ของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่า ชาดก บางภาพมีลักษณะศิลปกรรมคล้ายกับศิลปะลังกา โดยมีอักษรสมัยสุโขทัยกำกับบอกเรื่องชาดกไว้ด้วย นอกจากนี้ยังได้ค้นพบศิลาจารึกหลักที่ 2 เรียกว่า จารึกวัดศรีชุม ที่เล่าเรื่องราวของการก่อตั้งราชวงศ์สุโขทัย
ประวัติความเป็นมา สิ่งสำคัญที่ปรากฏอยู่โดดเด่นได้แก่ มณฑปเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่งขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ภายใน มีความสูง 15 เมตร ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 11.30 เมตร ที่ปรากฏชื่อในศิลาจารึกหลักที่ 1 ว่า พระอจนะ มีความหมายว่า ผู้ไม่หวั่นไหว สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่ง “มุทรา” หรือท่วงท่าการวางพระหัตถ์ที่นำมาใช้กับพระพุทธรูปปางมารวิชัยนี้ ต้นตำรับชาวอินเดียให้ความหมายว่า “ความแน่วแน่ไม่หวั่นไหว” พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี่ พ.ศ. 2496-2499
อาคารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประทับนั่งเต็มที่ภายในเช่นนี้ พบหลายแห่งทั้งในเมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชรเป็นอาคารที่ก่ออิฐคลุมส่วนบนที่เป็นหลังคาซึ่งแสดงว่าเป็นอาคารที่มีระดับศักดิ์สูง สำหรับที่นี้หมายถึงพระคันธกุฏีหรือกุฏิส่วนพระองค์ของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เชื่อมต่อกับด้านหน้าเป็นวิหารมีหลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องดันมีระดับศักดิ์ต่ำกว่า สำหรับเป็นสถานที่ให้สาธุชนใช้เป็นที่นมัสการองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ประทับอยู่ในคันธกุฏี
คำว่า ศรี มาจากคำเรียกพื้นเมืองเดิมของไทยว่า สะหลี ซึ่งหมายถึงต้นโพธิ์ ดังนั้นชื่อศรีชุม จึงหมายถีง ดงของต้นโพธิ์ แต่ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาที่เขียนในสมัยอยุธยาตอนปลาย ไม่เข้าใจความหมายนี้แล้ว จึงเรียกสถานที่นี้ว่า ฤาษีชุม
สถานที่สำคัญ มณฑปที่ภายในมีพระพุทธรูปปางมาวิชัยขนาดใหญ่