เกวียน นับว่าเป็นพาหนะสำคัญของคนอีสานในอดีต ที่ทำให้เคลื่อนที่ไป โดยใช้วัวหรือควายเทียมลากไป มีล้อเลื่อนที่ทำด้วยไม้ มี 2 ล้อ ใช้ในการเดินทางและบรรทุกสิ่งของ เกวียนสามารถเดินทางผ่อนผิวถนนขรุขระหรือถนนที่เต็มไปด้วยโคลนตมได้ดี โดยทั่วไปแล้วเกวียนจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด เกวียนควายและเกวียนวัว เกวียนวัวนั้นมีลักษณะเตี้ยและกว้างกว่าเกวียนควาย
ทางภาคอีสานจะออกเสียง “เกวียน” ว่า “เกียน” ส่วนทางภาคเหนือก็มีพาหนะลักษณะเดียวกับเกวียนใช้เหมือนกัน แต่จะเรียกว่า “ล้อ” ส่วนประกอบของเกวียนจะมีอยู่ 2 ส่วนหลัก คือ ล้อและตัวเรือน ล้อจะมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.40-1.60 เมตร ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ล้อทั้งสองจะเชื่อมต่อกันด้วยเพลา ซึ่งล้อนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกวียนเคลื่อนที่ไปได้ สำหรับตัวเกวียนจะเป็นส่วนที่ใช้บรรทุกคนหรือสิ่งของ
ต้นกำเนิดของการใช้เกวียน ยังไม่มีผู้ใดบันทึกไว้ แต่เชื่อกันว่ามนุษย์ใช้เกวียนในการเดินทางมานานแล้ว จนกระทั่งมีเครื่องยนต์เข้ามา ถนนหนทางเริ่มพัฒนาขึ้น การเดินทางด้วยเกวียนในปัจจุบันนี้แทบจะหาได้น้อยมาก เราจึงพบเกวียนอยู่ในพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเป็นส่วนใหญ่ ล้อเกวียนก็นำมาตกแต่งอาคารร้านค้าหรือทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ จึงเป็นไปได้ว่าการใช้เกวียนเพื่อการเดินทางคงจะลบเลือนไปในที่สุด
เกวียนขนาดใหญ่นี้มีจัดแสดงไว้ที่หออุบลวิทัศน์ อาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก เลขที่ 2 ถนนแจ้งสนิท ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี