ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว เดิมได้รับการประกาศจากกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งให้เป็นสุขาภิบาลน้ำเชี่ยว เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2504 ต่อมาได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะจากสุขาภิบาลน้ำเชี่ยวเป็นเทศบาล เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2542 (ตามพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ.2542) ต่อมาได้มีการประกาศให้ยุบรวมพื้นที่ อบต. เข้ากับเทศบาลตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2547 ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยวตั้งอยู่ใน ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด บนที่ลุ่มซึ่งเป็นทุ่งนา อีกทั้งมีพื้นที่บางส่วนติดกับทะเล มีป่าชายเลนและคลองขนาดใหญ่ไหลผ่าน โดยมีต้นน้ำอยู่ที่เขาแดง เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำในคลองจะไหลเชี่ยวมาก ชาวบ้านจึงเรียกพื้นที่นี้ว่า "คลองน้ำเชี่ยว" ชาวบ้านส่วนใหญ่เดิมเป็นคนไทยดั้งเดิม ปลูกบ้านเรือนกันในพื้นที่ ต่อมาได้มีชาวจีนเดินทางมาค้าขายทางเรือ เห็นว่าบริเวณดังกล่าวมีความอุดมสมบูรณ์จึงได้มาตั้งถิ่นฐานและแต่งงานกับคนในพื้นที่ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพค้าขายบริเวณริมถนน เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีชาวแขกจามอพยพมาจากกัมพูชา มาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณริมคลอง ชุมชนน้ำเชี่ยวจึงเริ่มขยายใหญ่ขึ้น ชาวบ้านที่นี่จึงมีทั้งผู้ที่นับถือศาสนาพุทธและอิสลามอยู่ร่วมกันเป็นสังคมใหญ่ อาชีพหลักของชาวบ้าน ได้แก่ การทำนา ทำสวนยาง และการประมง บ้านน้ำเชี่ยวเป็นชุมชนขนาดใหญ่บริเวณปากคลองน้ำเชี่ยวซึ่งใกล้กับทะเล จึงมีท่าเรือค้าขายและมีเรือสำเภามาค้าขายเป็นประจำ สินค้าที่มักนำมาจำหน่าย ได้แก่ เกลือและน้ำตาล ซึ่งซื้อจากเรือสินค้าที่เดินทางมาจากชลบุรี ปัจจุบัน บ้านน้ำเชี่ยวได้มีการอนุรักษ์ผืนป่าโกงกางขนาดใหญ่ จัดให้มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ หอสูงชมนกและทัศนียภาพป่านับหมื่นไร่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อน และศึกษาธรรมชาติ ดูสัตว์ป่าชายเลน เช่น ลิง เหยี่ยว ปู หรือประวัติศาสตร์กลุ่มชน ประเพณี ศาสนา และชีวิตชาวประมงได้ โดยทางชุมชนมีบ้านพักไว้บริการแต่ต้องติดต่อล่วงหน้า โดยชุมชนน้ำเชี่ยวนับเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และสงบสุขอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดตราด