ชื่อที่เรียกหมากค้อ
ชื่อสามัญตะค้อ
ชื่อวิทยาศาสตร์SAPINDACEAE
ชื่อวงศ์Schleichera oleosa (Lour.) Oken
หมวดหมู่ทรัพยากรพืช
ลักษณะไม้ยืนต้น ตะคร้อเป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 - 25 เมตร ส่วนมากต้นคดงอและเป็นปุ่มปม เรือนยอดเป็นพุ่มแผ่กว้าง รูปทรงกรวยหรือรูปร่ม เปลือกสีน้ำตาลอมเทา แตกเป็นสะเก็ดหนาๆ ใบ เรียงสลับ ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ รูปรี รูปขอบขนาน หรือรูปขอบขนานแกมไข่กลับ ขอบใบเป็นคลื่น ดอกช่อ แยกแขนงออกที่ง่ามใบและปลายกิ่ง สีเหลืองอมเขียว ผล ทรงกลมหรือรูปไข่ ปลายแหลม แข็ง เมื่อสุกสีเหลือง
ประโยชน์
ด้านไม้ใช้สอย
ลำต้นเนื้อแน่นเหนียวหนักทำสากตำข้าวดี,ใช้เลี้ยงครั่ง
เมล็ดทำน้ำมัน(จุดประทีป)
เปลือกใช้ย้อมผ้าให้สีน้ำตาล เปลือกค้อผสมกับเปลือกก่อ ให้สีกากี
ด้านอาหาร
เปลือกต้นขูดเอาเนื้อเปลือกตำใส่มดแดง(เปลือกนางกินกับตำเหมี่ยงโค่น กินกับใบส้มกบ,ส้มลม ตำใส่เครื่องข่าตะไคร้ พริก) นำมารับประทานจิ้มเกลือหรือนำมาซั่ว ลูกที่หวานมากนำมากินกับข้าวได้ เปลือกผลส่วนก้นนำตำใส่เปลือก ผสมกับเนื้อ
ด้านยา
เมล็ดกินได้ แต่อย่าเกิน3เม็ด เพราะจะเมา นำมาสกัดน้ำมัน
เปลือกใช้เปลือกนอก ขูดผสมเกลือ เป็นยารักษาสัตว์
เปลือกต้นแก้บิด,ท้องร่วง,มูกเลือด วิธีการ นำมาตำกิน
รักษาบาดแผลสด จากของมีคม วิธีการนำเปลือกบริเวณลำต้นที่วัดความสูงตาม บาดแผลที่เกิด ขูดเปลือกค้อ นำมาผสมกับยาดำ(เส้นผม,ขนเพชร) แล้วนำมาพอกแผล
ใบแก้ไข้ โดยขยี้ใบแก่กับน้ำ นำมาเช็ดตัวห้ามเลือด ใช้ใบแก่ เคี้ยวให้ละเอียดใส่แผลสด
ปิดปากแผลไว้
เนื้อผลเป็นยาระบาย
รากใช้ถอนพิษ เช่น อยากหยุดเหล้า นำน้ำต้มรากมาผสมเหล้า และกินตอนเมา จะทำให้ไม่อยากกินอีกปริมาณการใช้ราก1กำมือผู้กิน เหล้า 1 ก๊ง
รสชาติเปลือกฝาด, ผลเปรี้ยวหวาน, ใบอ่อนฝาด, ใบแก่รสมัน,เปลือกผลรสฝาด
อายุการใช้ประโยชน์
ต้นโตอายุ 80-100 ปี ทำเครื่องเรือน ฯลฯ อายุ 7 ปี ทำสาก ฯลฯ แล้วแต่การนำไปใช้ประโยชน์