อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีสถานที่แห่งหนึ่งที่ชาวท่าเรือ ต่างพากันเคารพนับถือเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างมากไม่ว่าจะประกอบพิธีบวชนาค หรือจะเดินทางไกลหลายคนต้องมาสักการะเพื่อขอพรอันพึงประสงค์ต่างๆ เพื่อให้สมความมุ่งมาดปรารถนา หลายท่านก็มักจะสมปรารถนาอยู่เสมอ นั้นคือ"ศาลพ่อปู่บุญมาก"ตามตำนานดึกดำบรรพ์ เล่าขานกันต่อๆมาว่า "พ่อปู่บุญมาก" เป็นชาวกรุงเก่า มีพี่น้องร่วมอุทร ๓ องคื คือพ่อปู่บุญมาก เจ้าพ่อเขาตก ( สาลตั้งอยู่ที่อำเภอพระพุทะบาท จังหวัดสระบุรี) และเจ้าพ่อ กอกา (อยู่บ้านท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา) ตำนานเล่าว่าแต่เดิมพ่อปู่บุญมากมีอาชีพเป็นหมอ(แพทย์แผนโบราณ) อยู่ทีั่เมืองกรุงเก่า ทราบว่าที่อำเภอนครน้อย(อ.ท่าเรือ) เป็นป่าทึบมีไม้ใหญ่ขึ้นอยู่มากแถมยังมีสิงห์สาราสัตว์ชุกชุมมากทีเดียว โดยเฉพาะช้างป่าจะชุมมากจะเห็นเป็นโขลง ๆ วันหนึ่งพ่อปู่บุญมากเกิดนึกสนุกอยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบป่าและออกล่าสัตว์ป่าที่อำเภอนครน้อยจึงได้รวบรวมสมัครพรรคพวกจำนวนหนึ่งพร้อมด้วยเสบียงอาหารและทรัพย์สินเงินทองใส่ไหไปด้วยเป็นจำนวนมาก โดยกะว่าจะใช้เวลาพักผ่อนท่องเที่ยวและล่าสัตว์อยู่หลายวัน จึงออกเดินทางโดยเรือโซล่า ซี่งเป็นเรือยาวประมาณ ๑๐-๑- เมตร วิ่งทวนกระแสน้ำแควป่าสักขึ้นมาทางทิศเหนือจนถึงเมืองนครน้อย (ท่าเรือ) ก็ได้พบต้นไม้ใหญ่มากขึ้นอยู่ริมตลิ่งก็ฉุกคิดได้ว่าน่าจะขึ้นเรือตรงนี้ เพราะป่าทึบมองอะไรไม่ค่อยเห็นจะได้ใช้ต้นไม้ดังกล่าวเป็นจุดสังเกต แต่เนื่องด้วยบริเวณนั้นเป็นวังน้ำวนของกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากจึงทำให้เรือของพ่อปู่บุญมากพลิกคว่ำลง ผู้คนในเรือพากันจมน้ำเสียชีวิตทั้งหมดภายหลังชาวบ้านทราบเรื่องเข้าจึงตั้งศาลให้ดวงวิญญาณของพ่อปู่บุญมาก สถิตย์อยู่ ณ ศาลที่หัวคันนาริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก บริเวณนั้น (ภายหลังกระแสน้ำเกิดเปลี่ยนทิศทาง บริเวณนั้นจึงตื้นเขิน เป็นแผ่นดินให้เห็นอยุ่ในปัจจุบัน

เรื่องของพ่อปู่บุญมาก จึงเล่าขานเ)นตำนานสืบมา ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ชาวบ้านอำเภอท่าเรือ เห็นว่า "ศาลพ่อปู่บุญมาก " จะตั้งอยู่อย่างนั้นเป็นการไม่เหมาะอย่างยิ่ง นายมัก แซ่เล้า จึงดำริให้สร้างศาลให้ใหม่ จึงได้ปรึกษาหารือกับชาวตลาดด้วยกัน และตกลงสร้างศาลขึ้นมาใหม่ ได้ตั้งคณะกรรมการก่อสร้างขึ้นมาประกอบด้วยนายยู่ไท้ฮง แซ่เตีย นายบุญส่ง มีมุขกิจ นายกิมแซ มีมุขกิจ นายชุนเทย แซ่เตีย นายเมี่ยฉั่น แซ่ตั้ง นายสกล ปัญจโภคศิริ นายสุกิจ ชัยสิทธิ์เมฆินทร์ นายตุ้ยหย่วน แซ่ห่าน และนายงุฒิชัย อนุรักษ์กิตติ ดำเนินการก่อสร้างบนที่ดินโฉนดเลขที่ ๘๐๙๙ เนื้อที่ ๑ งานเศษ สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ ๑ แสนบาทเศษ เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ นั่นเอง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่มีตัวตน ขึ้นอยู่กับความศรัทธาของคนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น "ศาลพ่อปู่บุญมาก" ท่านได้แสดงปาฏิหารย์ให้ปรากฎแก่ชาวบ้านท่าเรือก็หลายครั้งจนเป็นที่เคารพนับถือและศรัทธาแก่ชาวอำเภอท่าเรือโดบทั่วไป ดังนั้นครอบคร้วใดจะมีงานบุญ โดยเฉพาะงานบวชลูกบวชหลาน ญาติๆก็มักจะนำพ่อนาคมาทำพิธีสักการะท่านอยู่ทุกครั้งไป ส่วนผู้คนที่จะเดินทางไปไหนไกลๆ มักจะมากราบไหว้ท่านเสมอๆ หลายๆท่านเคยเล่าถึงประสบการณ์กับสิ่งแปลกๆที่ประสบกับตัวเองว่าก่อนเดินทางไกลได้มากราบไหว้พ่อปู่บุญมาก ครั้งหนึ่งขณะขับรถรู้สึกว่าเกิดความง่วงเคลิ้มหลับใน โดยคนที่นั่งมาด้วยกันเขาไม่รู้เรื่อง ก็รู้สึกว่าคล้ายมีมือของคนสูงอายุมาเขย่าแขนปลุกให้ตื่น ก็เลยไม่ประสบอุบัติเหตุปลอดภัยตลอดการเดินทาง ดังน้ั้นก่อนออกเดินทางในแต่ละครั้ง หลายคนจึงมักไปสักการะศาล "พ่อปู่บุญมาก" ทุกครั้งไป.