หลวงปู่ทวดในบัว เจ้าอาวาสองค์แรก วัดสารวัน ตามที่ได้ทราบจากผู้เฒ่า อายุประมาณ ๙๐ ปี หลายท่านด้วยกัน ทั้งที่เป็นไทยพุทธและไทยมุสลิม ได้เล่าให้ฟังนั้น ข้อมูลละเอียดไม่สามารถทราบได้นามเดิมของท่านเรียกว่าอย่างไร นามบิดา มารดาเรียกว่าอย่างไร มีพี่น้องกี่คน ทราบได้เพียงแต่ว่า
หลวงปู่ทวดในบัวนั้น แต่เดิมเป็นคนไทยมุสลิมในเขตกิ่งอำเภอไม้แก่น ต่อมาเมื่ออายุครบที่จะทำพิธีเข้าบวช ตามศาสนาอิสลามที่เรียกว่า เข้าสุหนัต เมื่อถึงเวลาทำพิธีเข้าสุหนัตจริงๆ ตอนทำพิธีนั้น ปรากฏว่าใช้มีดตัดปลายอวัยวะเพศไม่ขาด จึ่งเปลี่ยนมาใช้สิ่วตอกแทนก็ไม่ขาดเช่นกัน ขณะนั้นมีผู้เฒ่าผู้หนึ่งบอกว่า ไม่ต้องตัดแล้วเขาเจ็บเปล่าๆ จึงเลิกทำพิธี ครั้นอยู่ต่อมาท่านได้หนีออกจากบ้านไปบวชเป็นสามเณร และได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาและได้ไปศึกษาธรรมวินัย ในสถานที่ต่างๆ ต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๒๙๙ ได้กลับมาปักกรดอยู่ที่ป่าดงพงผะยอมใกล้บ้านตรัง หรือที่เรียกว่า บ้านโคกนิบงในปัจจุบัน ในที่สุดได้สร้างเป็นสำนักสงฆ์ ภายหลังได้ยกเป็นวัดหรือเปล่าไม่ปรากฏแน่ชัด แต่ที่ตรงนั้นปัจจุบันเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดสารวันอยู่ และที่ตรงนั้นอยู่ใกล้กับวังของพระยากุนิ ครั้นอยู่ต่อมา เด็กของพระยากุนิไปทะเลาะกับเด็กวัด เด็กวัดใช้มีดแทงตายสองคน เรื่องทราบถึงพระยากุนิท่านเห็นว่าเรื่องจะเกิดร้ายแรงต่อไป จึงไปหาหลวงปู่แลขอร้องให้ย้ายสถานที่อยู่นั้นเสีย หลวงปู่ทวด ในบัวจึงย้ายสถานที่อยู่ไปสร้างที่แห่งใหม่ เรียกว่า วัดโคกทิศหมาน ปัจจุบันสถานที่นั้นยังเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดสารวัน และได้อยู่ในสถานที่นั้นเป็นเวลาพอประมาณ และสถานที่นั้นอยู่ติดกับชายทะเล ต่อมาก็มีเหตุที่ต้องย้ายวัดอีกครั้ง จึงย้ายมาอยู่ที่บ้านลูตง ได้สร้างวัดใหม่เรียกว่า วัดลูตง เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๗๕ หลวงปู่ได้ประจำอยู่ ที่วัดนี้จนถึงแก่มรระภาพและภายหลังทางราชการมีนโยบายให้เปลี่ยนชื่อวัด ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๒ จึงเปลี่ยนชื่อวัดลูตง เป็นวัดสารวันจนถึงปัจจุบัน
หลวงปู่ทวดในบัว มีลักษณะรูปร่างสูงใหญ่ ผิวเนื้อดำแดง ในปากมีปานดำ อุปนิสัยเยือกเย็น ไม่ชอบพูดมาก ชอบพูดเฉพาะเรื่องที่จำเป็นเท่านั้นแต่มีเมตตาธรรมสูงมาก ชอบช่วยเหลือบุคคลที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่เป็นประจำ มีบุคคลเคารพมากทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมขนามนามของท่านว่าท่านมีบุญ บางครั้งเขามักจะเรียกท่านว่าหลวงปู่บุญก็มี จนถึงปัจจุบันนี้ประชาชนก็ไปแสดงความเคารพที่บัวและรูปเหมือนของหลวงปู่โดยไม่ขาดสาย เพราะเขาเหล่านั้นถือกันว่าหลวงปู่เป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ควรค่าแก่การเคารพสักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง