สันนิษฐานว่า“รำเหย่ย”มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ครั้งเสด็จมาอำเภอพนมทวน มีการละเล่นรำร้องกันในพลับพลาที่ประทับ และชาวบ้านจึงเล่นกันต่อมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๖ เสด็จมาบริเวณที่เรียกว่าพลับพลาไชย ในพื้นที่อำเภอพนมทวน ชาวบ้านได้จึงได้มีนำ “รำเหย่ย” ไปแสดงหน้าพระที่นั่ง นิยมเล่นในเทศกาลวันตรุษ สงกรานต์ งานนักขัตฤกษ์ งานมงคลต่างๆ และงานรื่นเริงของชาวบ้าน โดยเฉพาะในเขตอำเภอพนมทวน เช่น บ้านทวน บ้านห้วยสะพาน บ้านทุ่งสมอ บ้านหนองปลิง บางครั้งก็จะเป็นการเล่นประกอบการเล่นพื้นเมืองอื่นๆ เช่น การเล่นลูกช่วงรำ ลูกช่วงขี้ข้า หรือประกอบการเล่นเหยี่ยวเฉี่ยวลูกไก่ ประวัติความเป็นมาของการละเล่นเพลงเหย่ย" เพลงเหย่ย" หรือ "รำเหย่ย"บางครั้งก็เรียกว่า "รำพาดผ้า" เป็นการละเล่นพื้นเมืองของไทย นิยมเล่นแถบจังหวัดกาญจนบุรี ลักษณะการเล่น เริ่มจากการประโคมกลองอย่างกึกก้องเพื่อให้ผู้เล่น และผู้ดูเกิดความรู้สึกสนุกสนาน ปัจจุบันรำพาดผ้า หรือ รำเหย่ย มีการพัฒนารูปแบบทันสมัย และถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ เพื่อไม่ให้ศิลปะพื้นบ้านนี้เลือนหายไปจากวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนวิธีการเล่นไม่จำกัดจำนวน ผู้เล่นยิ่งมากยิ่งสนุกสนาน โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็นฝ่ายชาย กับหญิงแต่ละฝ่ายจะมีผู้ร้องประกอบด้วยพ่อเพลง แม่เพลง ลูกคู่ และผู้รำ เมื่อเริ่มเล่นฝ่ายชายจะเป็นผู้เริ่มชวนฝ่ายหญิงให้เล่นเพลงเหย่อยกัน ฝ่ายหญิงรับคำชวนก็จะมายืนล้อมเป็นวงกับฝ่ายชาย แม่เพลงจะร้องโต้ตอบพ่อเพลงโดยมีลูกคู่รับทั้งสองฝ่าย เนื้อร้องส่วนใหญ่จะเป็นทำนองหยอกล้อ เกี้ยวพาราสี โดยมีเครื่องดนตรีประกอบได้แก่ กลองยาว รำมะนา ฉิ่ง กระบอกไม้ไผ่ ฯลฯ