กลุ่มชาติพันธุ์ไททรงดำ หมู่ที่ ๓ บ้านแหลมทอง ตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีการโยกย้ายถิ่นฐานมาจากเพชรบุรี ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น เช่น ศิลปะการแสดง (รำไทยทรงดำ) พิธีเสนเรือน
และการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีความรู้ความชำนาญด้านการทอผ้า
ที่สวยงาม โดยเฉพาะเสื้อและผ้าซิ่น ซึ่งถือเป็นผ้าพื้นเมืองที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์
ที่ชัดเจน การแต่งกายด้วยผ้าสีดำ หรือสีครามเข้ม เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น งานมงคล และอวมงคล
ผู้ชาย
ผู้ชายจะสวม “เสื้อไท” ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายสีดำย้อมมะเกลือทั้งตัวไม่มีลวดลาย ทอด้วยโครงสร้างสายชัด เป็นเสื้อคอตั้งไม่มีปก คอกลมสูงติดคอ ติดกระดุม จํานวน ๙ - ๑๓ เม็ด
(นิยมใช้เลขคี่) กระดุมทำด้วยเงินเป็นรูปยอดแหลมลายกลีบบัว ปล่อยขายส่วนบริเวณชายเสื้อด้านข้างลำตัวทั้งสองข้างแทรกด้วยผ้ารูปสามเหลี่ยม ตั้งแต่เอวลงมาถึงสะโพกเพื่อให้ชายเสื้อบานออก การต่อ แขนเสื้อไม่ตัดผ้าให้โค้ง แต่มีวิธีทำแขนให้กว้างโดยแทรกผ้ารูปสามเหลี่ยมไว้ได้รักแร้ ทำให้โคนแขนใหญ่ขึ้น สะดวกในการสวมใส่และการเคลื่อนไหว ส่วนท่อนล่าง จะนุ่งกางเกง ซึ่งเป็นผ้าย้อมด้วยมะเกลือหรือครามแก่ เรียกว่า "ซ่วงก้อม" (กางเกงขาสั้น) กับซ่วงฮี (กางเกงขายาวถึงตาตุ่ม) ลักษณะเป็นกางเกงทรงหลวมคล้ายกางเกงจีน หรือกางเกงขาก๊วยแต่ปลายขาแคบเรียว เอวกว้าง มีตะเข็บด้านข้างเวลานุ่ง จะต้องพับทบแล้วผูกหรือเหน็บชายผ้ากับเอว กางเกงทั้งสองแบบนี้นิยมใส่ กับเสื้อไท้ในชีวิตประจำวัน
ผู้หญิง
ผู้หญิงจะสวม “เสื้อก้อม” และนุ่ง “ผ้าซิ่นลายแตงโม” หรือ “ซิ่นตาหมี” เสื้อก้อม
จะเป็นเสื้อผ้าฝ้ายย้อมสีดำจากผลมะเกลือหรือสีน้ำเงินเข้มจากคราม แขนยาวทรงกระบอก รัดรูป
คอกลมติดคอ ผ่าหน้า ติดกระดุม จำนวน ๙ ถึง ๑๓ เม็ด คล้ายเสื้อไท้ของผู้ชายแต่จะรัดรูปกว่า ชายเสื้อบานออกชายเสื้อตรงกลางจะเว้าไว้ประมาณนิ้วครึ่ง เพื่อโชว์หน้าท้อง การนุ่งผ้าซิ่นจะนุ่ง
หน้าสั้นหลังยาวสองชายพับมารวมตรงหน้า และพับตลบหลังทับกันตรงหน้าท้อง เพื่อให้สะดวกในการเดินและทำให้เนื้อผ้าซิ่นไม่แยก เพราะโครงสร้างการทอของผ้าซิ่นไทยทรงดำที่ใช้เส้นยืนเป็นเส้นไหม หรือฝ้ายสีแดง เมื่อผ่านการใช้งานไประยะหนึ่งเนื้อผ้าอาจแยกห่างออกทำให้เห็น เส้นยืนสีแดง ดังนั้นการนุ่งผ้าซิ่นในลักษณะแบบนี้จะนุ่งแบบหลวม ๆ เริ่มจาก ส่วนบนของตัวซิ่นหรือที่เรียกว่า “เชิงบนหรือหัวซิ่น” จะโอบเข้ากับเอวด้านซ้าย และขวาให้กระชับจากนั้นคาดด้วยเข็มขัดหรือเชือกขวั้นเกลียวแล้วตลบพับลงมาด้านหน้า