ดอกโสน เป็นไม้ล้มลุก เป็นพุ่มขนาดกลาง ลำต้นสูงเปราะบาง เพราะไม่มีแก่น สูงประมาณ 2 - 3 เมตร มีกิ่งก้านห่าง ๆ ใบฝอยเล็กคล้ายกับใบมะขามหรือใบกระถิน ดอกสีเหลืองคล้ายดอกแคแต่เล็กกว่า มีฝักยาว เมล็ดในฝักคล้ายกับถั่วเขียว มักขึ้นในท่ีชื้นแฉะ ริมคลอง ริมคูน้ำ ดอกโสนเมื่อเวลาท่ีออกดอกจะมองดูสวยงามจะเป็นสีเหลืองเต็มริมคลอง ดอกโสนเป็นพืชท่ีขึ้นง่าย นิยมนำดอกโสนมาต้มจิ้มน้ำพริก หรือไม่ก็ผัดกับน้ำมัน นำมาทอดกับไข่กินกับน้ำพริกแอบด้วยปลา ดอกโสนมีประโยชน์หลายอย่าง นำมาทำเป้็นขนมดอกโสน สมัยเด็ก ๆ จำได้ว่า คุณยายซึ่งทำขนมขาย จะทำให้กินอยู่ สมัยก่อนดอกโสนจะพบเห็นขึ้นมากในช่วงฤดูฝนแต่ปัจจุบันจะพบเห็นอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ขอให้มีน้ำพูดถึงขนมจะบอกวิธีทำให้แต่ก็ไม่มีรูปภาพให้ดูนะเพราะปัจจุบันหาคนท่ีจะทำขนมดอกโสนในอำเภอบ้านค่ายไม่มีแล้ว แต่ท่ีภาคอื่น อาจจะยังมีอยู่ เนื่องจากดอกโสนเป็นไม้ท่ีขึ้นง่าย จึงเห็นมีอยู่ทั่วไปทุกภูมิภาค แถมยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกด้วย แต่ท่ีนำมาบันทึกในข้อมูลเนื่องจาก ปัีจจุบันนี้ เด็กรุ่นหลัง ๆ จะไม่รู้จัก พืชชนิดนี้เป็นส่วนมากอาจจะรู้ว่าดอกโสนแต่ไม่รู้คุณค่าและประโยชน์ จึงคิดว่า คงจะไม่ไร้สาระท่ีบางท่านอาจจะบอกว่านำมาลงทำไมเพราะดอกโสนท่ีไหน ๆ ก็มี นี้คือเหตุผล ต้องการชี้ให้คนรุ่นหลังได้ทราบว่า คนสมัยก่อน ดำรงชีพอยู่ได้ยังไง ทำไมเค้าถึงพูดกันว่าในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เข้าสวนมีพืชผัก สมุนไพร เข้าป่ามีเนื้อ อยู่แบบไม่เบียดเบียนกัน ค่อยที ค่อยอาศัย มีปลา 1 ตัว กินได้ตลอดไม่มีหมด
เครื่องปรุงแป้งข้าวเจ้าอย่างดี 3สว่น4ถ้วยตวง หัวกะทิ 1ส่วน4 ถ้วยตวง ดอกโสน 1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย เกลือป่น
วิธีทำ (จำจากคุณยายมาแต่ก็ไม่เคยทำเช่นกัน) นำดอกโสนมาเด็ดเอาก้านออก ล้างน้ำให้สะอาด ,ผสมเกลือกับน้ำเล็กน้อย ชิมให้ออกรสเค็มเล็กน้อย นำไปพรมให้ทั่วดอกโสน , นำแป้งข้าวเจ้ามานวดกับหัวกะทิจนเข้ากัน เอาผ้าขาวบางซุบน้ำปิดพอหมาด ปูลงบนลังถึง ใส่ดอกโสนเกลี่ยให้กระจาย นำแป้งข้าวเจ้าท่ีนวดไว้มามายีด้วยตระแกร่งตาห่างหน่อย ใส่ลงในดอกโสนจนหมด เคล้าแป้งท่ียีกับดอกโสนพอเข้ากันนำไปนึ่งในน้ำเดือด พอแป้งสุกตักออกยีให้กระจาย ใส่มะพร้าวทึนทึกท่ีขูดฝอย โรยน้ำตาลทรายตามชอบ ปัจจุบันมีผู้ผลิดสายพันธุ์ใหม่ สามารถให้ดอกทั้งปี