การปฏิบัติเกี่ยวกับการกล่าวสลาม มีหลายประการ ดังนี้
๑. การสลามและการจับมือด้วย ซึ่งกระทำได้ระหว่างชายกับชาย และหญิงกับหญิง สำหรับชายกับหญิงกระทำได้เฉพาะผู้ที่อยู่ในฐานะที่แต่งงานกันไม่ได้เท่านั้น เช่น พ่อกับลูก พี่กับน้อง ฯลฯ หากชายหญิงนั้นอยู่ในฐานะที่จะแต่งงานกันได้เป็นสิ่งต้องห้าม
๒. ผู้ที่มีอายุน้อยกว่าควรที่จะให้สลามแก่ผู้ที่อายุมากกว่า
๓. เมื่อเข้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านของตนเองหรือผู้อื่น สิ่งแรกที่ต้องทำคือการกล่าวสลามให้ผู้ที่อยู่ในบ้านทราบก่อน หากกล่าวครั้งที่ ๑ ยังไม่มีผู้รับสลามก็ให้กล่าวอีก ๒ ครั้ง ถ้ายังไม่มีผู้กล่าวรับสลามก็ให้ข้าใจว่า เจ้าของบ้านไม่อยู่หรือไม่พร้อมที่จะรับแขกก็ให้กลับไปก่อน แล้วค่อยมาใหม่
๔. จะต้องมีการกล่าวสลามก่อนที่จะมีการสนทนาปราศรัย
๕. เมื่อมีผู้ให้สลาม ผู้ฟังหรือผู้ที่ได้ยินต้อง (บังคับ) กล่าวรับสลาม ถ้าอยู่หลายคน ก็ให้คนใดคนหนึ่งกล่าวรับถือเป็นการใช้ได้ ถ้าไม่มีผู้ใดรับสลามเลยจะเป็นบาปแก่ผู้นั้น
ทั้งนี้ศาสนิกชนอื่นไม่อยู่หลักปฏิบัติที่จะต้องปฏิบัติทั้งกล่าวสลาม และตอบรับสลามตลอดจนสัมผัสมือ โดยเฉพาะต่างเพศซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม
ส่วนชาวไทยพุทธเมื่อพบปะกัน ผู้อ่อนอาวุโสกว่าจะยกมืไหว้ผู้อาวุโสกว่าเป็นการทักทาย หรือสำหรับผู้อยู่ในวัยเดียวกันจะกล่าวคำว่าสวัสดี