ชื่อผลิตภัณฑ์ดังเดิม:โอ่งผ้าไทย
ชื่อผู้ประกอบการ:กลุ่มโอ่งผ้าไทย โดยคุณสุภา วรรักษ์ไพศาล
ชุมชนคุณธรรม/ชุมชนเครือข่าย:ชุมชนคุณธรรมวัดสำโรง
หมายเลขโทรศัพท์:๐๘ ๗๓๖๕ ๗๖๓๗
เครื่องปั้นดินเผาสามารถสื่อความหมายในระดับวัฒนธรรม สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคม บอกเล่าเรื่องราวและวิถีชีวิตของคนในสังคมในแต่ละยุคแต่ละสมัย ถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านช่างผู้ชำนาญ หรือที่หลายคนเรียกว่า ปราญช์ชาวบ้าน สืบทอดความรู้ต่อๆกันมา แต่ปัจจุบันเยาวชนไม่ได้ให้ความสำคัญ และมองว่า เป็นเรื่องไกลตัวไม่น่าสนใจ การพัฒนาและต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ให้มีคุณค่าและมีมูลค่ามากยิ่งขึ้น
“ผ้าไหม” นอกจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า สืบทอดภูมิปัญญาที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย ที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของชาติไทย โดยเสน่ห์ของผืนผ้าไหมไม่เพียงอยู่ที่เส้นใยที่นำมาถักทอแล้ว ยังมีลวดลายและเรื่องราวปรากฏอยู่บนผืนผ้าไหม เช่น ลายไทย ดอกไม้รูปทรงเลขาคณิต รูปสัตว์ สัญลักษณ์ประจำท้องถิ่นต่างๆ มากมาย ที่มีความละเอียดอ่อน สวยงาม เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้กลุ่มนำผ้าไหมมาประยุกต์ใช้กับ “โอ่ง” เครื่องปั้นดินเผาที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน มาผสมผสานสร้างมูลค่าเพิ่ม เกิดเป็น “โอ่งผ้าไหม” สร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
งานรังสรรค์ผลิตภัณฑ์โอ่งดินธรรมดาเป็นโอ่งผ้าไทย ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิดภัณฑ์ ซึ่งแสดงถึงความสวยงาม ประณีตวิจิตร บรรจง ด้วยกระบวนการประดิษฐ์ที่ประกอบไปด้วยขั้นตอน หรือศาสตร์ที่เกิดจากการสะสมประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ความชำานาญเฉพาะด้าน เกิดเป็นผลงานปรากฏให้เห็นคุณค่า และจากจินตนาการของผู้ประดิษฐ์ เป็นผลิตภัณฑ์ Free Hand ๑ ชิ้น ๑ ลาย
ขั้นตอนการทำโอ่งผ้าไหม
๑. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ ได้แก่ โอ่งดินเผาตามขนาดที่ต้องการ, ผ้าไหม, ผ้าลายไทย, ดิ้นเงิน-ดิ้นทอง, กรรไกรตัดผ้า, กรรไกรขนาดเล็กใช้เล็มขอบผ้า, คีมปากแหลม, กาวลาเท็กซ์, ดินสอร่างแบบ, ถุงซีน, กระดาษทรายน้ำเบอร์ ๐-๑ , กระดาษแข็ง
๒. นำโอ่งดินเผาตามขนาดที่ต้องการมาล้างทำความสะอาดและขัดด้วยกระดาษทราย
๓. ตัดกระดาษแข็งตามแผนที่ออกลวดลายต่างๆ ที่เตรียมไว้ เช่น ลายบัว, ลายไทย, รูปหัวใจ, ดอกจิก, รูปช้าง
๔. ตัดผ้าไหม และผ้าลายไทยตามส่วนที่ออกแบบจากกระดาษแข็ง
๕. ทากาวบางๆ ที่แบบลายที่วาดบนโอ่ง แล้วนำผ้าไหมที่ตัดไว้มาติดบนโอ่งตามลาย และค่อยๆ รีดให้เรียบ
๖. ใช้กาวทาตรงช่องว่างระหว่างลายไทยแล้วนำผ้าลายไทยที่เตรียมไว้มาติด ดึงให้เรียบแล้วใช้กรรไกรเซาะส่วนของผ้าลายที่เกินออกให้เรียบเนียน
๗. นำผ้าไหม/ผ้าไทยมาตัดเฉลียงตามกว้างประมาณ ๓ - ๕ ซม. ความยาวเท่ากับรอบปากโอ่ง ทากาวบางๆ รอบปากโอ่ง แล้วใช้ผ้าไหมพันปากโอ่งให้รอบแล้วผลักผ้าที่เหลือเข้าด้านในโอ่ง
๘. ใช้ไม้ปลายแหลมแตะกาวแล้วทาตามชาย ใช้ดิ้นเดินตามลายที่วาดไว้ ระวังอย่าให้กาวเลอะผ้า ถ้าเลอะให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ด (การเดินดิ้นจะใช้กี่เส้นขึ้นอยู่กับลายแต่ละลาย)
๙. นำกระดาษแข็งมาตัดเป็นรูปวงกลมขนาดเท่าก้นโอ่ง ใช้ผ้ารองก้นโอ่งมาติดกับกระดาษแล้วนำมาติดก้นโอ่ง
๑๐. ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อย นำโอ่งผ้าไหม/ผ้าไทยมาหุ้มด้วยถุงซีนและเป่าด้วยไดร์เป่าผมความร้อนสูง