ขนมเต่า : กูโก๊ย (龜 粿)
#ขนมอั่งกู ( 紅龜粿)
อั่งกู( 紅龜)แปลตรงตัวว่าเต่าแดง เป็นขนมมงคลที่มีความหมายดีทั้งสีสันและรูปทรง สีแดงเป็นสีแห่งโชคลาภ เต่าเป็นสัญลักษณ์ของความมีอายุยืน เป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมจีนที่ติดตามผู้อพยพจากมณฑลฮกเกี้ยนมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. พบได้ตามเมืองต่างๆในช่องแคบมะละกา ตั้งแต่สิงคโปร์ มะละกา ปีนัง สตูล กันตัง ไปจนถึงภูเก็ต เป็นมรดกวัฒนธรรมอาหารที่ยืนยงมั่นคงไม่เสื่อมคลาย ทุกวันนี้ยังหาซื้อ”ขนมอั่งกู”ได้ทุกๆเช้าที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล
อั่งกูเป็นขนมสำคัญที่ขาดไม่ได้ทั้งในงานมงคลและอวมงคล และขาดไม่ได้บนโต๊ะเซ่นไหว้ในเทศกาล(節)ต่างๆตลอดปี อั่งกูทุกแห่งตลอดช่องแคบมะละกาทำด้วยวิธีเดียวกันหมด มีส่วนประกอบที่เป็นแป้งข้าวเหนียวกับน้ำกะทิที่ใส่สีแดงพอสวย นวดให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน และไส้ที่ทำจากถั่วทองนึ่งจนสุก* นำไปปั่นรวมกับน้ำตาลทรายและหัวกะทิ จากนั้นก็กวนไฟอ่อนๆจนแตะดูไม่ติดมือ รอให้เย็นตัวลงแล้วจึงปั้นไส้เป็นก้อนกลมๆพักไว้
เอกลักษณ์อั่งกูคือแม่พิมพ์ไม้แกะสลักรูปเต่าสวยงาม พิมพ์อั่งกูรุ่นเก่ามีหัวมีหางและมีสี่เท้า กลางกระดองเต่ามักแกะอักษรจีน 壽(ซิ่ว)แปลว่าอายุยืน เป็นนัยอวยพรให้ผู้รับประทานมีอายุยืน ขนมอั่งกูหากขาดแม่พิมพ์ไม้ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น "อั่งกู"
ขั้นตอนการทำถัดจากการนวดแป้งและปั้นไส้คือการแบ่งแป้งให้ได้ขนาดพอดีตัว นำแป้งมาห่อไส้ให้เป็นทรงกลมแล้วนำไปกดในแม่พิมพ์ กดตัวขนมกระชับแนบแม่พิมพ์ให้ทั่วเพื่อได้ลวดลายชัดเจน แล้วเคาะออกจากแม่พิมพ์ วางบนใบตองสดตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมใหญ่กว่าขนมเล็กน้อย ใบตองนี้ต้องทาน้ำมันพืชกันขนมติด
เรียงขนมในรังถึงและนึ่งในน้ำเดือดจนสุก นำออกมาพักไว้ รอจนเย็นลงแล้วจึงใช้กรรไกรตัดใบตองเป็นทรงรีพอดีกับขนม
ขนมเต่าหรืออั่งกูครองใจชาวสตูลมานาน ทุกวันนี้ยังมีช่างขนมหลายท่านทำขายทุกเช้าในตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล สายหน่อยก็หาซื้อได้ตามแผงขายขนมยามเช้าเยื้องคริสตจักรสตูล (ถนนสมันตประดิษฐ์) หรือแผงขนมบนถนนหัตถกรรมศึกษา (ถนนสายโรงพยาบาล)
ขนมหวานโบราณที่ยังอยู่ยั้งยืนยงเพราะมีดีที่สัมผัสหนึบหนับ และรสชาติที่ไม่หวานจนเลี่ยน เป็นขนมโบราณไม่กี่ชนิดที่ยังคงปรากฏบนโต๊ะอาหารเช้าของชาวสตูลได้ทุกๆวัน
_____________________
#ความรู้ท้ายโพสต์
#ขนมเต่า หรือกูโก๊ย (龜 粿) ในวัฒนธรรมจีนช่องแคบโบราณมี 4สี แต่ละสีมีชื่อเรียกต่างกัน และใช้ในโอกาสต่างกัน นอกจากอั่งกูหรือเต่าแดงแล้ว เรายังมี แปะกู แชกู และ อุ๋ยกู
▪️แปะกู(白龜)ขนมเต่าสีขาว ใช้ในพิธีไหว้ศพ ก่อนเคลื่อนศพไปสุสาน เรียกพิธีนี้ว่าว่า "ป๊ายทีป๊ายเต่" (พิธีคารวะฟ้าดิน)
▪️แชกู(青龜 )ขนมเต่าสีฟ้า ใช้ในพิธีไหว้เนื่องในวันครบปีของการไว้ทุกข์ จะมีการตั้งโต๊ะเซ่นไหว้ยาวเหยียดนานเกือบทั้งวัน ถ้าผู้วายชนม์เป็นชาย จะไหว้แชกู และใช้เทียนสีฟ้า เรียกพิธีไหว้ครบปีว่า "ตุ๊ยหนี" ในพิธีตุ๊ยหนีนี้บุตรหลานจะเปลี่ยนชุดไว้ทุกข์จากสีขาวดำเป็นสีฟ้า (โทนสีฟ้า/น้ำเงิน/เขียว ) และจะแต่งกายด้วยโทนสีนี้ไปอีก 1ปี แล้วจึงทำพิธีออกทุกข์ (ตุ๊ยอั๋ง)
[กรณีที่ไว้ทุกข์เพียงร้อยวัน ตอนเช้าไหว้แชกู พร้อมกับเทียนสีฟ้า พอเลยเที่ยงจะยกถาดแชกูออกแล้วนำถาดอั่งกูมาเซ่นไหว้แทนพร้อมกับการเปลี่ยนเทียนจากเทียนสีฟ้าเป็นเทียนสีแดงแล้วออกทุกข์เลย ]
▪️อุ๋ยกู (黄龜)ขนมเต่าสีเหลือง ใช้ในพิธีไหว้ครบปี(ตุ๊ยหนี)ของการไว้ทุกข์ กรณีผู้วายชนม์เป็นหญิง จะไหว้อุ๋ยกูพร้อมเทียนสีเหลือง แต่การแต่งกายของบุตรหลานจะแต่งกายด้วยโทนสีฟ้า/น้ำเงิน/เขียว
[ในกรณีที่ไว้ทุกข์เพียง 100วันแล้วออกทุกข์เลย ตอนเช้าไหว้อุ๋ยกู พร้อมเทียนสีเหลือง พอเลยเที่ยงเปลี่ยนจากอุ๋ยกูเป็นอั่งกู และเปลี่ยนเทียนจากสีเหลืองเป็นเทียนแดง ]
▪️อั่งกูก้อนที่ปั้นกลมๆแต่ไม่ใส่ลงในแม่พิมพ์ เรียกว่า "อั่งอี๋" ใช้ในพิธีศพ เวลายกโลงออกจากบ้าน เรียกพิธีนี้ว่า "แตะเธีย" เป็นการขอบคุณสถานที่ (ดูภาพที่ 9และ 10 )
_____________________
*คือถั่วเขียวที่ลอกเปลือกออก มีลักษณะเป็นซีกมีสีเหลืองทอง จึงเรียกว่าถั่วทอง เวลาใช้ต้องแช่น้ำประมาณ2ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่งให้สุก จากนั้นนำมาบดหรือปั่นให้ละเอียด
_____________________
หมายเหตุ : ผู้เขียนสะกดภาษาไทยของคำว่า "อั่งกู" ด้วยเสียงสามัญ "กู" เพราะคำนี้ไม่ได้ออกเสียงวรรณยุกต์ใดๆ เวลาพูดจีนเราออกเสียงว่า อั่ง กู แม้พูดภาษาไทยเราก็เรียกขนมนี้ด้วยเสียงเดียวกัน ไม่ได้เรียกว่า อั่ง กู๊ ซึ่งเป็นเสียงวรรณยุกต์ตรีแต่อย่างใด