ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 16° 34' 52.9781"
16.5813828
ลองจิจูด (แวง) : E 100° 13' 18.7014"
100.2218615
เลขที่ : 194215
งานประเพณีแข่งเรือยาว วัดกำแพงดิน
เสนอโดย พิจิตร วันที่ 6 กันยายน 2564
อนุมัติโดย พิจิตร วันที่ 6 กันยายน 2564
จังหวัด : พิจิตร
1 520
รายละเอียด

๑. ประวัติความเป็นมา

ประวัติการแข่งขันเรือยาวประเพณี ของวัดกำแพงดิน

ชุมชนตำบลกำแพงดิน จัดว่าเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อุปนิสัยเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี มีความสัมพันธ์กันแบบเครือญาติส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ โดยมีวัดเป็นศูนย์รวมของคนในชุมชน ผู้คนมีความสามัคคียึดมั่นในวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น และวัฒนธรรมประเพณี

ตำบลกำแพงดิน มีแม่น้ำยมตัดไหลผ่าน ประชาชนได้ก่อตั้งบ้านเรือนเป็นกลุ่มก้อน ทั้ง ๒ ฝั่งแม่น้ำยม มีประมาณพันกว่าหลังคาเรือน ตั้งแต่ครั้งในอดีตที่ผ่านมาเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ช่วงเดือน ๑๐- ๑๒ (กันยายน-พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่ชาวบ้านจะเล่นเรือยาว โดยผู้ที่อยู่ใกล้วัดจะนำเรือลงแม่น้ำ แล้วพายเรือขึ้นเหนือน้ำ เพื่อที่จะไปรับผู้คนที่รอคอยการซ้อมเรือในช่วยเย็น

ในครั้งสมัยก่อนนั้นการแข่งเรือของแต่ละวัดเป็นลักษณะของการขึ้นแรงกัน โดยการนำเรือไปแข่งกันในแต่ละวัดที่จัดแข่ง โดยมีน้ำมันบัว และแป้งเป็นรางวัล ส่วนอาหารจะเป็นข้าวห่อใส่ลงในใบตองกล้วย สำหรับวัดกำแพงดิน จะถือกำหนดเอาในวันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นกำหนดการแข่งเรือ ในช่วงก่อนเพลชาวบ้านส่วนหนึ่งจะรับถวายสลากภัตกล้วยทอด จนเป็นคำพูดติดปากว่า “ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ทอดกล้วยแข่งเรือวัดกำแพงดิน

การแข่งเรือประเพณีของวัดกำแพงดินมีมายาวนานมากแล้ว แต่มาหยุดลงเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ เนื่องจากหลวงพ่อพระครูพิพิธสังฆการ (ผิว ฐานวโร ) เจ้าอาวาสวัดกำแพงดิน ซึ่งเป็นประธานจัดงานได้อาพาธ และมรณภาพในปีพ.ศ.๒๕๓๑ จนกระทั้งเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๑ พระครูศรีปริยัติวิธูร (วิฑูรย์ ภทฺทธมฺโม น.ธ.เอก ป.ธ.๖ พธ.บ., กศ.ม.) ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพงดิน จึงได้ประชุมชักชวนประชาชนเพื่อฟื้นฟูประเพณีการแข่งเรือยาวประเพณีให้กลับคืนมาอีกจนถึงปัจจุบัน

ในยุคปัจจุบันสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงไป การจัดแข่งเรือของวัดกำแพงดินจึงได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ได้กำหนดการแข่งเรือ โดยยึดเอาวันพุธที่สองของเดือนกันยายนของทุกปีเป็นกำหนดประเพณีเรือยาววัดกำแพงดิน คือหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งเรือหน้าสนามลำน้ำน่าน หน้าวัดท่าหลวงจังหวัดพิจิตร และก่อนที่จะมีการแข่งเรือที่หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ (วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช) จังหวัดพิษณุโลก

การจัดแข่งเรือของวัดกำแพงดิน ในลักษณะดังกล่าว ได้เริ่มดำเนินการมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยมีเรือจากจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๓ ประเภท คือ ประเภท ๕๕ ฝีพาย ๓๐ ฝีพาย และ ๑๒ ฝีพาย

การสนับสนุนการแข่งขันโดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลกำแพงดิน องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดิน และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนต่างๆ ตลอดจนประชาชนได้ร่วมสละทุนทรัพย์ เพื่อเป็นกองทุนและได้ดำเนินการขอพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๐จนถึง ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ รวม ๑๒ ปี สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๖๔ หยุดการจัดงานแข่งขันฯ ชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) (ข้อมูล ณ วันที่ ๒๔ ส.ค.๒๕๖๔)

งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทานฯ ของวัดกำแพงดิน ถือเป็นสนามที่ ๖ ของจังหวัดพิจิตร ดังนี้

สนามที่ ๑วัดบึงตะโกน “งานประเพณีแข่งเรือยาว วัดบึงตะโกน” ตำบลท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร จัดช่วงต้นเดือนสิงหาคม

สนามที่ ๒วัดท่าฬ่อ “งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” วัดท่าฬ่อ ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร จัดช่วงวันที่ ๑๘ สิงหาคม

สนามที่ ๓วัดหาดมูลกระบือ “งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” วัดหาดมูลกระบือ ตำบลย่านยาว อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร จัดงานในวันที่ ๒๑ สิงหาคม

สนามที่ ๔วัดหัวดง “งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” วัดหัวดง ตำบลหัวดง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร จัดงานในวันที่ ๓๑ สิงหาคม

สนามที่ ๕วัดท่าหลวง (พระอารามหลวง) “งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดช่วงวันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน

สนามที่ ๖วัดกำแพงดิน “งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดงานในวันพุธสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน

หมายเหตุ : เป็นข้อมูลการแข่งเรือในปี พ.ศ. ๒๕๖๒

รางวัลการแข่งขันเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทานฯ

๑. เรือประเภท ๕๕ ฝีพาย เรือที่ชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล ๓๐,๐๐๐ บาท

๒. เรือประเภท ๓๐ ฝีพาย เรือที่ชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล ๒๐,๐๐๐ บาท

เรือประเภท ๑๒ ฝีพาย เรือที่ชนะเลิศ ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงิน รางวัล ๑๐,๐๐๐ บาท

สถิติผลการแข่งแข่งเรือ ในช่วงระยะเวลา ๑๐ ปีที่ผ่านมา

ปี พ.ศ.๒๕๕๓กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี ตรงกับวันพุธที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๓ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑. เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเพชรโนรี จังหวัดพิจิตร

๒. เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้านางเมทาวดี จังหวัดพิษณุโลก

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือบึงวารี จังหวัดพิษณุโลก

ปี พ.ศ.๒๕๕๔กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี ตรงกับวันพุธที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑. เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเทพนรสิงห์ ๘๘ จังหวัดสระบุรี

๒. เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้านางเมทาวดี จังหวัดพิษณุโลก

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือบึงวารี จังหวัดพิษณุโลก

ปี พ.ศ.๒๕๕๕กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี ตรงกับวันพุธที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๕ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑. เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือยุทธการนาวา กองทัพเรือ

๒.เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้าแม่จอมเพชร จังหวัดพิจิตร

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือพรวิเชียร จังหวัดพิจิตร

ปี พ.ศ. ๒๕๕๖กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๖ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

.เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง กองทัพเรือ

๒.เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้านางเมทาวดี จังหวัดพิษณุโลก

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือบึงวารี จังหวัดพิษณุโลก

ปี พ.ศ. ๒๕๕๗กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี เป็นปีที่ ๗ ตรงกับวันพุธที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๗ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑.เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือยอดพิษณุ จังหวัดพิจิตร

๒.เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้าแม่จอมเพชร วัดวังปลาทู จังหวัดพิจิตร

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๑๒ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือชบาแก้ว วัดวังโป่ง จังหวัดพิจิตร

ปี พ.ศ. ๒๕๕๘กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี เป็นปีที่ ๘ ตรงกับวันพุธที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๘ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑.เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง กองทัพเรือ

๒.เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้านางเมทาวดี จังหวัดพิษณุโลก

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือบึงวารี จังหวัดพิษณุโลก

ปี พ.ศ. ๒๕๕๙กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี เป็นปีที่ ๙ ตรงกับวันพุธที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๙ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑. เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง กองทัพเรือ

๒. เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเทพวราภรณ์ จังหวัดพิจิตร

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือพรวิเชียร จังหวัดพิจิตร

ปี พ.ศ. ๒๕๖๐กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี เป็นปีที่ ๑๐ ตรงกับวันพุธที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๐ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑. เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง กองทัพเรือ

๒. เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเนตรนาคราช อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือพรวิภัช วัดดงชะพลู จังหวัดพิจิตร

ปี พ.ศ. ๒๕๖๑กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี เป็นปีที่ ๑๑ ตรงกับวันพุธที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑. เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง กองทัพเรือ

๒. เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเทพจุฬาลักษณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือพรเดชา วัดยางคอยเกลือ จังหวัดพิจิตร

ปี พ.ศ. ๒๕๖๒กำหนดการจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี เป็นปีที่ ๑๒ ตรงกับวันพุธที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒ มีจำนวนเรือที่เข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้

๑. เรือประเภท ๕๕ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๖ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือเจ้าแม่ประดู่ทอง กองทัพเรือ

๒. เรือประเภท ๓๐ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือพรพระครูศรี วัดกำแพงดิน จังหวัดพิจิตร

๓. เรือประเภท ๑๒ ฝีพายเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน ๘ ลำ

เรือที่ชนะเลิศ ได้แก่เรือพรเดชา วัดยางคอยเกลือ จังหวัดพิจิตร

เอกลักษณ์และสีสันของงานประเพณีแข่งเรือยาว วัดกำแพงดิน

เอกลักษณ์ของงานประเพณีแข่งเรือยาว วัดกำแพงดิน

การแข่งเรือยาววัดกำแพงดิน มีประวัติมายาวนานและได้รับการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ในปัจจุบัน ผลของการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาว คือ

๑. ทำให้ประเพณีของการแข่งเรือยาวยังดำรงคงอยู่

๒. ประชาชนในเขตชุมชนตำบลกำแพงดินได้มีโอกาสแสดงออกถึงความสามัคคีและเสียสละ

๓. ชาวบ้านมีความรักความห่วงใยวัดมากยิ่งขึ้น

๔. วัดกำแพงดิน ได้เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงการจัดงานแข่งเรือในนามลุ่มแม่น้ำยม จังหวัดพิจิตร

๕. ในแวดวงการแข่งเรือยาวได้รู้จักวัดกำแพงดินได้เป็นอย่างดี

“ข้าวหลาม วัดกำแพงดิน”

เนื่องจากงานประเพณีแข่งเรือยาว วัดกำแพงดิน ได้ห่างหายไปนาน พระครูศรีปริยัติวิธูร เจ้าอาวาสวัดกำแพงดิน จึงได้ประชุมชักชวนประชาชนเพื่อฟื้นฟูประเพณีการแข่งเรือยาวประเพณี ให้กลับคืนมาอีกครั้ง โดยชุมชนบ้านกำแพงดินก็มีการเผาข้าวหลาม จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของงานประเพณีแข่งเรือยาว วัดกำแพงดิน

ไม้ไผ่กาบเหลือง ซึ่งมักจะขึ้นตามตีนเขา ชาวบ้านกำแพงดิน จะรวมตัวกันขึ้นไปตัดไม้ไผ่ที่ป่าบ้านแยง ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก สาเหตุที่เลือกไม้ไผ่กาบเหลือง ป่าบ้านแยง เนื่องจากมีไม้ไผ่จำนวนมาก และไม้ไผ่มีลำยาวสวย เวลาตัดไม้ไผ่ ไม่ต้องเลือกกลางอ่อนกลางแก่เหมือนไม้ไผ่ทั่วไป ถ้าเห็นต้นไหนแก่ก็สามารถตัดใช้งานได้เลย ผู้ชายจะช่วยกันตัดไม้ไผ่ ส่วนผู้หญิง จะทำหน้าที่เผาข้าวหลาม

ข้าวหลามวัดกำแพงดินเผาใหม่ทุกวัน สด สะอาด หอม หวาน มัน เริ่มจำหน่ายก่อนวันงาน จนถึงวันงาน รวม ๔ – ๕ วัน ราคากำหนดตามความเหมาะสม มัดรวมเป็นชุดๆ ละ ๓-๔ กระบอกราคา 100 บาท รายได้จากการขายทั้งหมดถวายให้วัด เพื่อใช้ในการทำนุบำรุงศาสนา และซ่อมแซมศาสนาสถาน

สีสันของการแข่งขันเป็นการแข่งขันเรือยาวพิเศษ “แข่งเรือยาวฝีพาย ๓,๐๐๐ ปี

การแข่งเรือยาวฝีพาย ๓,๐๐๐ ปี ได้กำหนดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปีแรก เป็นการแข่งเรือยาวของฝีพายรุ่นเก่า หรือที่เรียกกันว่า ฝีพายลายคราม ที่ฝีพายมีอายุระหว่าง ตั้งแต่ ๕๕ ถึง ๗๐ กว่าปี โดยมีแนวคิดที่จะให้ลูกหลานชาวกำแพงดินที่ไปทำงานต่างถิ่น ได้เห็นพ่อ เห็นปู่ เห็นญาติของตนเอง ลงแข่งเรือ ลูกหลานเกิดความคิดถึง รักถิ่นฐานบ้านเกิดของตน ฝีพายลายครามจะลงพายเรือ วัดกำแพงดิน มีเรือ ๔ ลำ คือ เรือเพชรสยาม เรือเพชรประกายมาศ เรือพลายงาม และ เรือพรพระครูศรี กำหนดให้ฝีพายรุ่นลายคราม แบ่งทีม ออกเป็น ๔ ทีม ๔ ลำเรือ แล้วแต่งกายย้อนยุค สวมเสื้อสีสะท้อนแสง กางเกงขาก๊วย ผ้ายันต์โผกศรีษะ ส่วนใบพายใช้พายใบ้ข้าวซึ่งเป็นพายยุคเก่า แตกต่างจากปัจจุบันที่เปลี่ยนเป็นพายใบโพธิ์

เรือของวัดกำแพงดิน จำนวน ๔ ลำ

เรือประเภท 50 ฝีพาย การแข่งขันระหว่าง เรือเพชรสยาม และเรือเพชรประกายมาศ

เรือประเภท 30ฝีพาย การแข่งขันระหว่าง เรือเรือพลายงาม และเรือพรพระครูศรี

ก่อนการแข่งขัน ทางฝีพายรุ่นเก่า ได้ร่วมกันร้องเพลงปลุกใจ ซึ่งเป็นเพลงประจำทีมเรือย้อนอดีตถึงการแข่งขันเรือสมัยก่อน สร้างความสนุกสนาน และ ขวัญกำลังใจแก่บรรดาฝีพายเรือ ซึ่งการแข่งขันเป็นไปด้วยความสนุกสนาน จากเรือทั้ง ๔ ลำ บรรดาฝีพาย ในแต่ละลำ เป็นอดีตฝีพายเรือรุ่นเก่า ที่มีรวมกันในแต่ละลำ ประมาณ ๓,๐๐๐ ปี

เพลงปลุกใจ…เรือวัดกำแพงดิน

คู่แข่ง เราก็พร้อม เราไม่ยอมแพ้ใคร เรารีบจ้ำ เรารีบพาย ผลสุดท้ายพลายตาม

เฮ้ เฮ เฮ้…เฮ เฮ เห่ เฮ เฮ….เฮ เฮ เฮ เห้ เฮ เฮ่ เห่ เฮ เฮ

เพชรเอ๋ยเพชรสยาม ฝีพลายงาม ซะนี้กะไร คู่แข่ง เราก็ซ้อม เราไม่เคยกลัวใคร

เฮ้ เฮ เฮ้…เฮ เฮ เห่ เฮ เฮ….เฮ เฮ เฮ เห้ เฮ เฮ่ เห่ เฮ เฮ

คู่แข่ง เราก็พร้อม เราไม่ยอมแพ้ใคร เรารีบจ้ำ เรารีบพาย ผลสุดท้ายลายคราม

เฮ้ เฮ เฮ้…เฮ เฮ เห่ เฮ เฮ….เฮ เฮ เฮ เห้ เฮ เฮ่ เห่ เฮ เฮ

หงส์ หงส์ หงส์ อย่าทะนงไปนะ ปีกของเจ้าจะหัก ลงกลางหนอง

เจ้าอย่าอวดทะนง ว่าจะเป็นหงส์ทอง

ได้แต่ชะแล้ แลมอง หงส์ หงส์ทองขยับปีกบิน หงส์ หงส์ทองขยับปีกบิน

หงส์ หงส์ หงส์ อย่าทะนงไปนะ ปีกของเจ้าจะหัก ลงกลางหนอง

เจ้าอย่าอวดทะนง ว่าจะเป็นหงส์ทอง

ได้แต่ชะแล้ แลมอง หงส์ หงส์ทองขยับปีกบิน หงส์ หงส์ทองขยับปีกบิน

·

การฝึกซ้อมฝีพาย รุ่นลายคราม

พระครูศรีปริยัติวิธูร เจ้าอาวาสวัดกำแพงดิน ได้ประยุกต์อุปกรณ์ที่หาได้ทั่วไป จำลองการ ฝายเรือ “เรือบก” ใต้ศาลาวัด พัฒนาฝึกซ้อมเตรียมการเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน เน้นการเสริมสร้างสมรรถภาพของร่างการ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ให้กล้ามเนื้อของร่างกายหลายๆ ส่วนทำงานร่วมกัน ในการพายเรือกล้ามเนื้อที่ต้องใช้ เช่น กล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อหัวไหล่ กล้ามเนื้อหน้าอก กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลัง ความสามารถในการหดตัวของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายรวมกัน สามารถเปลี่ยนตำแหน่งและทิศทาง ในการเคลื่อนไหวได้ด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในขณะพายเรือ เช่น ก้มตัวลงไม้พาย ดึงไม้พาย ยกไม้พายขึ้น เป็นต้น

รางวัลของผู้ชนะ การแข่งขันเรือยาว ๓,๐๐๐ ปี

เรือยาว ๓,๐๐๐ ปี เรือที่ชนะเลิศ ได้รับ น้ำมันบัว (น้ำมันพืช) และแป้งทาหน้า มอบให้ฝีพายทุกคน

ว่าด้วยเรื่อง “ข้าวห่อ” สืบสานประเพณีโบราณ

เนื่องจากในสมัยก่อนการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาว ไม่มีงบประมาณ เน้นความรักความสามัคคี จึงมีการร่วมแรงแต่ละบ้านจะทำข้าวห่อ มาเป็นอาหารกลางวันให้กับฝีพาย ปัจจุบัน พระครูศรีปริยัติวิธูร เจ้าอาวาสวัดกำแพงดิน จึงได้สืบสานประเพณีนี้ ประกาศหาเจ้าภาพรับทำข้าวห่อ จำนวน ๖๐๐ ห่อ ซึ่งก็จะมีเจ้าภาพหลายบ้าน แบ่งๆ กันไปเป็นเจ้าภาพ ทำข้าวห่อโดยใช้ใบตองกล้วย ห่อข้าวเหนียวและอาหารง่ายๆ เช่น น้ำพริก หมูทอด ไข่ดาว พัดกระเพา ฯลฯ แล้วแต่ทางเจ้าภาพแต่ละบ้านที่ทำกัน และจะนำมารวมกันที่วัด คละเคล้าปนรวมกัน นำไปใส่เข่งหรือกระบุง เป็นอาหารกลางวันให้กับฝีพายในเรือแต่ละลำ โดยไปรับที่วัดหรือท่าน้ำ ที่ใช้เป็นสนามแข่งเรือ จึงเป็นท่ามาของคำว่า“สิงห์ล่าข้าวห่อ”นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมหนึ่งลุ้นข้าวห่อ ว่าข้างในจะเป็นอะไร ซึ่งแต่ละคนจะได้ไม่เหมือนกัน เกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยน และแบ่งปันกันกิน ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่บ่งบอกถึงนิสัยใจคอของชาวชุมชนบ้านกำแพงดิน เป็นคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เห็นอกเห็นใจ เพื่อนบ้านใกล้เรือน

๒. คุณค่าและบทบาทของวิถีชุมชนที่มีต่อองค์ความรู้เรื่องนี้

๑)คุณค่าขององค์ความรู้ทางวัฒนธรรม

เป็นงานประเพณีที่ได้ร่วมกันสืบทอดกันมา จนถึงลูกหลานได้รับรู้ เข้าใจ และหวงแหน รักถิ่นฐานบ้านเกิดของตน ปู่ย่าตายายจนถึงปัจจุบันอยู่อาศัยกันแบบโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เห็นอกเห็นใจ มีความรักความสามัคคี ร่วมกันกระทำสิ่งที่ดีงามให้กับชุมชนของตน

๒)บทบาทของชุมชนในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ขององค์ความรู้ทางวัฒนธรรม

ชุมชนมีความศรัทธาต่อเจ้าอาวาส และเมื่อได้ลงมือทำตามแล้ว พบกับความสุข เห็นเป็นประจักษ์ ทุกๆงานประเพณีได้ร่วมกันสืบสาน รักษา ต่อยอด และแฝงไปด้วยสิ่งที่ดีงาม สร้างความรักความสามัคคีในชุมชน

๓. การส่งเสริม สนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม

ประเพณีแข่งเรือยาว วัดกำแพงดิน ได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลกำแพงดิน องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดินเป็นหลัก และองค์กร ต่าง ๆจากทั้งภาครัฐ/ภาคเอกชน และชาวบ้านกำแพงดิน ที่สนับสนุนทั้งกำลังคน กำลังทรัพย์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ และช่วยกันขายข้าวหลาม เพื่อนำรายได้มาสมทบให้กับการจัดงาน

๔. สถานภาพปัจจุบัน

๑)สถานะการคงอยู่ขององค์ความรู้ :มีการปฏิบัติอย่างแพร่หลาย (แต่ความโดดเด่นในแต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันออกไป)

๒)สถานภาพปัจจุบันของการถ่ายทอดความรู้และปัจจัยคุกคาม

- พระครูศรีปริยัติวิธูร เจ้าอาวาสวัดกำแพงดิน รองเจ้าคณะอำเภอสามง่าม ได้ประชุมชักชวนประชาชนฟื้นฟูประเพณีการแข่งเรือยาวประเพณีให้กลับคืนมาอีกครั้ง และได้จัดเป็นงานประจำปีสืบทอดตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยมีองค์กร ต่าง ๆจากทั้งภาครัฐ/ภาคเอกชน และชาวบ้านกำแพงดิน ที่สนับสนุนทั้งกำลังคน กำลังทรัพย์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ

- ปัจจัยคุกคาม ได้แก่ ภัยธรรมชาติ น้ำท่วมครั้งใหญ่ และที่หนักสุดคือการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ และเริ่มทวีความรุ่นแรงขึ้นเลยๆ จนถึงปัจจุบัน

๕. ข้อเสนอแนะ

อยากให้คนไทย รักและหวงแหนวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมท้องถิ่น สืบสาน รักษา และต่อยอด

๖. ข้อมูลอ้างอิงบุคคล

ชื่อ-นามสกุล : พระครูศรีปริยัติวิธูร ภทฺทธมฺโม

ตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดกำแพงดิน รองเจ้าคณะอำเภอสามง่าม

วัดกำแพงดิน หมู่ที่ ๔ ตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร

เบอร์โทรศัพท์ .๐๘๑-๔๗๔๔๒๒๓

Facebook : พระครูศรีปริยัติวิธูร ภทฺทธมฺโม หรือ วัดกำแพงดิน

สถานที่ตั้ง
วัดกำแพงดิน
เลขที่ - หมู่ที่/หมู่บ้าน 4 ซอย - ถนน -
ตำบล กำแพงดิน อำเภอ สามง่าม จังหวัด พิจิตร
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร
บุคคลอ้างอิง นางสาวขวัญชนก ชินวงษ์ อีเมล์ khun16599@gmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร อีเมล์ culture.phichit01@gmail.com
เลขที่ - หมู่ที่/หมู่บ้าน - ซอย - ถนน บุษบา
ตำบล ในเมือง อำเภอ เมืองพิจิตร จังหวัด พิจิตร รหัสไปรษณีย์ 66000
โทรศัพท์ 081-8742817 โทรสาร 0-5661-2675-6
เว็บไซต์ https://www.m-culture.go.th/phichit/main.php?filename=index
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่