ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 7° 34' 58.2499"
7.5828472
ลองจิจูด (แวง) : E 99° 59' 28.4114"
99.9912254
เลขที่ : 194641
พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ
เสนอโดย พัทลุง วันที่ 14 กันยายน 2564
อนุมัติโดย พัทลุง วันที่ 4 มกราคม 2566
จังหวัด : พัทลุง
0 386
รายละเอียด

ประวัติ

พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ชาวบ้านเรียกว่า"พระสี่มุมเมือง" เป็นพระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงพระกรุณาพระราชทานให้ไว้ประจำภาคใต้โดยมีพระราชโองการให้ประดิษฐานไว้ ณ จังหวัดพัทลุง

การสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศหรือพระสี่มุมเมือง มีประวัติกล่าวไว้ว่า เนื่องในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำรงสิริราชสมบัติมาได้ ๑๕ ปี พ.ศ.๒๔๖๘ เท่ากับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงทรงมีพระราชดำริที่จะทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายรัชกาลที่ ๒ และสมโภชสิริราชสมบัติของพระองค์ตามแบบสมเด็จพระบุรพกษัตราธิราช จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหล่อพระพุทธรูปสำริดกาไหล่ทองปางสมาธิจำนวน ๑๖ องค์ และทรงถวายพระนามว่า"พระพุทธนิรโรคันตราย" โดยมีพระราชกำหนดไว้ว่า จะถวายไปยังพระอารามหลวงที่เป็นวัดมหานิกาย ๑๕ องค์ อีกองค์หนึ่งนั้นไว้ในราชการ นอกจากนี้ยังได้ทรงโปรดเกล้าฯ. ให้ช่างหล่อเชิงเทียนกาไหล่ทองขึ้นอีกส่วนหนึ่ง มีลักษณะคล้ายพระแสงศรกำลังราม ตรงกลางเป็นรูปวชิราวุธ สองข้างมีจงกล มีที่ปักเทียน ๓๙ ที่ และได้ทรงมีพระราชกำหนดไว้ว่า จะพระราชทานไปยังพระอารามหลวงที่สำคัญ ๆ เมื่อพระพุทธรูปและเชิงเทียนสำเร็จแล้ว แต่ยังมิทันถึงกำหนดที่จะทรงบำเพ็ญพระราชกุศลก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๘ หลังจากนั้นจะมีการพระราชทานพระพุทธนิรโรคันตรายไปยังพระอารามหลวงแห่งใดบ้างไม่ปรากฏหลักฐาน

ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๙ กรมการรักษาดินแดนได้คำนึงถึงพระราชศรัทธาของพระบาทสมเด็จฯ พระมงกุฎเกล้ำเจ้าอยู่หัว พระบิดรแห่งกิจการรักษาดินแดนไทย ในการสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายดังกล่าว จึงเห็นควรน้อมเกล้าฯ ด้วยความจงรักภักดีและอีกทั้งเป็นการดำเนินตามรอยประเพณีแห่งอดีตสมเด็จพระบุรพกษัตริย์ของไทย ที่ได้สร้างพระพุทธปฏิมาไว้ ๔ มุมเมืองเพื่อขอพุทธานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดา ช่วยปกป้องคุ้มครอง และเพื่อเพิ่มเกณฑ์ชะตาของบ้านเมืองตลอดถึงพสกนิกรที่อยู่ใต้ร่มพระบารมีให้มีความอยู่เย็นเป็นสุขปราศจากโรคาพาธภัยพิบัตินานาประการ จึงดำริว่าควรจะได้มีการสร้าง"พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ" ขึ้นในยุคปัจจุบันนี้บ้าง เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ทั้ง ๔ ทิศของประเทศไทยให้เป็นสิริมงคลแก่ปวงชนชาวไทยทั้งชาติ และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศแห่งพระบรมมหากษัตราธิราชพระองค์ปัจจุบัน จึงเห็นสมควรว่าการสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายนี้ จะต้องอยู่ในพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น สามัญชนหรือเหล่าคณะใดไม่อาจจะกระทำได้กรมการรักษาดินแดนจึงนำความกราบบังตมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงทราบแล้วได้ทรงพระบรมราชานุญาตให้กรมกรรักษาดินแดนดำเนินการสร้างพระพุทธนิรโรคันตรายขึ้นโดยทันที และมีพระบรมราโชบายจะให้นำไปประดิษฐานไว้ทั้ง ๔ ทิศของประเทศไทย ได้แก่ ทิศเหนือประดิษฐานที่จังหวัดลำปาง ทิศได้ประดิษฐานที่จังหวัดพัทลุง ทิศตะวันออกประดิษฐานที่จังหวัดสระบุรี และทิศตะวันตกประดิษฐานที่จังหวัดราชบุรี

เมื่อกรมการรักษาดินแดนได้รับกระแสพระราชดำรัสเหนือเกล้าฯ เหนือกระหม่อมแล้วได้ประกอบพิธีการสร้างพระพุทธรูปสำคัญทั้ง ๔ องค์ขึ้น ในวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน๕ หรือที่เรียกว่า"วันเสาร์ห้า" ตรงกับวันที่ ๒๖ มีนาคมพ.ศ.๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเททองหล่อพระพุทธรูป ซึ่งสร้างด้วยโลหะผสม ๓ ชนิด หรือไตรโลหะ ประกอบด้วยทองเหลือง ๓ ส่วน ทองแดง ๑ ส่วนทองขาว ๑ ส่วน รวมโลหะทั้งสิ้นประมาณ ๔๐๐ กิโลกรัมก่อนทำพิธีหล่อนั้น ได้เปิดโอกาสให้บรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้นำแผ่นโลหะทองคำ นาก และเงิน หรือที่เรียกว่า "โลหะสามกษัตริย์" จารึกดวงชะตาของแต่ละคน แล้วนำเข้าพิธีปลุกเสกแผ่นโลหะถึง ๓ ครั้ง ซึ่งพุทธศาสนิกชนทั้งหลายเชื่อว่าได้มีส่วนสร้างพุทธานุสรณ์อย่างแท้จริง ทั้งเป็นการอุทิศชีวิตเพื่อได้ใกล้ชิดกับพระพุทธเข้า เป็นการสร้างมหากุศลอันเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาด้วย หลังจากได้ดำเนินการหล่อพระพุทธรูปเสร็จแล้ว กรมการรักษาดินแดนได้จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกอย่างถูกต้องตามพิธีการทางพุทธไสยศาสตร์

พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ มีขนาดหน้าตักกว้าง ๔๙ นิ้ว เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะสวยงามมากพุทธลักษณะแบบเดียวกับพระพุทธนิรโรคันตราย สร้างตามอิทธิพลพุทธศิลปสุโขทัย เชียงแสนเละอยุธยาผสมกัน องค์พระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานบัวคว่ำบัวหงายปางสมาธิ พระหัตถ์ขวาวางซ้อนบนพระหัตถ์ซ้าย ซึ่งวางอยู่บนพระเพลา พระพักตร์เป็นรูปไข่ พระเกตุมาลาเป็นรูปเปลวเพลิงขมวดพระศกเป็นรูปกันหอยใหญ่ ไม่มีไรพระศก พระขนงจดกันเป็นรูปปีกกา ระหว่างพระขนงมีอุณาโถมรูปหยดน้ำฝังด้วยทับทิมสีแดง พระเนตรมองต่ำ พระนาสิกงุ้ม พระโอษฐ์ยิ้มอิ่มเอิบ ครองจีวรห่มเฉียง พาดสังฆาฏิเป็นแผ่นยาวจดพระนาภี ปลายสังฆาฏิเป็นรูปเขี้ยวตะขาบ ปลายจีวรพาดผ่านพระกรด้านซ้าย

ครั้นถึงวันศุกร์ที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จออกท้องพระโรง ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ทรงพระกรุณาธิคุณถวายพระสุหร่าย และทรงเจิมพระพุทธรูป แล้วทรงมีพระกระแสพระราชดำรัสพระราชทานพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง ๔ คน โดยเฉพาะภาคใต้ คณะกรรมการจังหวัดและพ่อค้าประชาชนจังหวัดพัทลุง โดยการนำของนายสมัค ปทุมานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงในขณะนั้น ได้จัดขบวนรถยนต์อัญเชิญพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ประกอบด้วยราชวัครฉัตรธงแห่อย่างมโหฬารสมพระเกียรติไปยังจังหวัดพัทลุง โดยมีเครื่องบินโปรยข้าวดอกดอกไม้ถวายนำทางไปทุกระยะ ขบวนแห่ได้เดินทางไปตามถนนสายเพชรเกษม ได้หยุดพักแรมให้ประชาชนทำพิธีบูชาสมโภชที่ จังหวัดราชบุรีชุมพร และจังหวัดตรัง จังหวัดละ ๑ คืน จนกระทั่งถึงวับอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๓ พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศใต้เสด็จถึงปะรำพิธีหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง โดยมีคณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน จัดพิธีสมโภชมีพระเถรานุเถระ ๑๐ รูป เจริญพระปริตรพระพุทธมนต์ และจัดมหรสพเฉลิมฉลองตลอด ๑ คืน รุ่งขึ้นวันพุธที่ ๑ มกราคมพ.ศ.๒๕๑๒ ได้อัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานที่พลับพลาหลวงริมฝั่งทะเลสาบสงขลา ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง ให้ประชาชนได้ทำพิธีบูชาสมโภชตลอด ๑ คืน ในวันพฤหัสบดีที่ ๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๒ ได้อัญเชิญพระพุทธรูปโดยขบวนแห่กลับมาประดิษฐานชั่วคราว ณ ศาลาจัตุรมุขภายใน วัดภูผาภิมุข ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง และต่อมาได้มีการสร้างศาลาจตุรมุขขึ้น บริเวณด้านหน้าระหว่างศาลากลางจังหวัดพัทลุงกับศาลจังหวัดพัทลุง และได้อัญเชิญพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศมาประดิษฐานเพื่อเป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดที่เป็นศูนย์รวมจิตใจและการสักการะของชาวพัทลุงและชาวภาคใต้

สถานที่ตั้ง
ถนน ราเมศวร์
อำเภอ เมืองพัทลุง จังหวัด พัทลุง
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
ที่มา : สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ เล่ม ๔ (๑๗๓๐).กรุงเทพ.บริษัท สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด.
บุคคลอ้างอิง นางสาวประภัสรา เกตุชู อีเมล์ prapatsara9363@gmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง
ถนน ราเมศวร์
ตำบล คูหาสวรรค์ อำเภอ เมืองพัทลุง จังหวัด พัทลุง รหัสไปรษณีย์ 93000
โทรศัพท์ ๐๗๔-๖๑๗๙๕๘ โทรสาร ๐๗๔-๖๑๗๙๕๙
เว็บไซต์ https://www.m-culture.go.th/phatthalung/main.php?filename=index
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่