วัดกำแพง (หลวงปู่โต๊ะ)
ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๒ สร้างเมื่อใดไม่มีหลักฐานแน่ชัด จากคำบอกเล่าและจากซากอิฐ เจดีย์ วิหาร สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมมีกำแพงเก่าล้อมรอบมีความกว้าง ๒๒ วา ยาว ๓๓ วา จึงได้นามว่า "วัดกำแพง" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓ มีพระประธานประจำ อุโบสถ ปางมารวิชัย และพระพุทธรูปปางต่างๆ ๑๐ องค์ เจดีย์ ๙ องค์
หลวงปู่โต๊ะ ท่านเป็น ชาวต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี มีชื่อเดิมว่า "โต๊ะ กุหลาบวงศ์" ชาตะปีวอก วันจันทร์ เดือนพฤศจิกายน ๒๓๔๙ โยมบิดาชื่อ "โพธิ์" โยมมารดาชื่อ "ปรางค์" มีพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน ๔ คน ท่านเป็นบุตรคนโต บิดาของท่านเป็นกำนัน ต.ท่างาม ต่อมารู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส นายโต๊ะจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดกำแพง จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส
หลวงปู่โต๊ะ เป็นพระคณาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม เก่งกล้าด้านไสยเวท และเป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ถึงกับมีการแลกเปลี่ยนวิชาไสยเวท โดยไปมาหาสู่กันเป็นประจำ
หลวงปู่โต๊ะได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดดงยาง ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ต่อมาเมื่ออายุครบบวช ท่านได้อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๔๕๙ ณ วัดดงยาง โดยมี พระวินัยธรกิ่ง วัดธรรมสังเวช ต.งิ้วราย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับสมญานามว่า “ฉันโท” ซึ่งเป็นชื่อของวาทสูตรหนึ่งในพระพุทธศาสนา
ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดดงยาง โดยได้ไปศึกษาพระธรรมวินัยกับพระอุปัชฌาย์อยู่เสมอ จนสามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้ ในพรรษาที่ ๒ ท่านได้ย้ายมาอยู่ที่วัดโพธิ์ลังการ์ ๑ พรรษา และวัดท่าอิฐ ๒ พรรษา เพื่อเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ซึ่งทั้ง ๒ วัดนี้ต่างก็อยู่ในเขต ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
พ.ศ.๒๔๙๒ หลวงปู่โต๊ะได้รับนิมนต์จากญาติโยมให้มาจำพรรษา ณ วัดกำแพง จนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๖๖ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกำแพง พ.ศ.๒๔๖๗ ได้รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลท่างาม-ชีน้ำร้าย เขต ๑ พ.ศ. ๒๔๗๘ รับตำแหน่งเป็นพระธรรมธร (โต๊ะ) และเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง พ.ศ.๒๔๘๕ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และพ.ศ.๒๕๐๑ ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็น“พระครูปราการกิตติคุณ”
ในด้านวิชาไสยเวทแขนงต่างๆ หลวงปู่โต๊ะมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก โดยท่านได้ศึกษามาจากหลายพระคณาจารย์ ได้แก่ ๑.หลวงพ่อลา วัดโพธ์ศรี จ.สิงห์บุรี ๒.หลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก จ.ลพบุรี ๓.หลวงพ่อโพธิ์ วัดกำแพง จ.สิงห์บุรี (โยมบิดาของท่าน) ๔.หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงปู่โต๊ะ เป็นพระอริยสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก จนเชื่อกันว่าท่านได้สำเร็จอภิญญาสมาบัติ มีตาทิพย์ หูทิพย์ สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งวันมรณภาพของท่านเอง
ท่านได้มรณภาพด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลเปาโล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๒๕ สิริอายุได้ ๘๖ ปี พรรษา ๖๗
ทางวัดกำแพงได้นำสรีระของหลวงปู่โต๊ะบรรจุไว้ในหีบแก้ว บนตึกอนุสรณ์ปราการกิตติคุณ โดยสรีระของท่านเป็นอมตะ ไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา ทั้งนี้ เพื่อให้ญาติโยม และผู้ที่เคารพศรัทธาท่านได้มาสักการบูชาขอพร ซึ่งก็มีมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ตราบจนถึงทุกวันนี้