ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 15° 52' 51.3905"
15.8809418
ลองจิจูด (แวง) : E 100° 18' 9.9666"
100.3027685
เลขที่ : 197444
ตำนานด่างเกยไชย
เสนอโดย นครสวรรค์ วันที่ 22 กันยายน 2565
อนุมัติโดย นครสวรรค์ วันที่ 22 กันยายน 2565
จังหวัด : นครสวรรค์
0 1782
รายละเอียด

วัดเกยไชยเหนือ(บรมธาตุ) นั้น เดิมตั้งอยู่ตรงทางโค้งของทางหลวงก่อนที่จะแยกเข้ามาวัดในปัจจุบัน ตำบลเกยไชย มีแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมไหลมาบรรจบกัน ความกว้างของแม่น้ำสมัยนั้นกว้างกว่าในปัจจุบันเป็น ๒ เท่า บริเวณที่แม่น้ำทั้งสองสายบรรจบกันนี้เป็นวังตะกอนหรือปากน้ำซึ่งมีความลึกมาก มีจระเข้ชุกชมเรียกว่าเป็นวังจระเข้ชาวบ้านสมัยนั้นจะลงอาบน้ำในแม่น้ำแต่ละครั้งต้องเอาไม้มาปักเป็นรั้วเพื่อป้องกันจระเข้โดยเฉพาะ บางวันจะเห็นจระเข้ออกมาผึ่งแดดเต็มไปหมด จระเข้ที่มีชื่อติดหูชาวบ้านทั่วไปว่า“ไอ้ด่างเกยไชย”เป็นจระเข้ซึ่งดุร้ายชอบอาละวาด เพราะเป็นจระเข้พันธุ์น้ำจืดผสมน้ำเค็ม ซึ่งชอบทำร้ายผู้คนซึ่งสัญจรไปมา โดยเฉพาะพวกหาปลาจับปลา เหตุที่เรียกว่า ด่างเกยไชย สันนิษฐานว่าชาวเรือที่ผ่านไปมาค้าขาย เห็นรอยด่างสีขาวๆ ปรากฏอยู่บนศีรษะ ประกอบกับรูปร่างใหญ่โต
ความยาวจากปากถึงขากรรไกรยาวประมาณ ๑ วา ความสูงของหัวจากพื้นสูงประมาณ ๕ – ๖ ศอก ความยาวของลำตัวคะเนว่าจะกว้างเท่าแม่น้ำ ว่ากันว่าด่างเกยไชยนี้เป็นเสมือนเรือข้ามฟากของเจ้าพ่อจุ้ย เพราะตรงบริเวณวังตะกอนหรือปากคลองมีศาลเจ้า เรียกว่า
“ศาลเจ้าพ่อจุ้ย”ซึ่งชาวเกยไชยให้ความเคารพนับถือในความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อจุ้ยมาก เจ้าพ่อจุ้ยโปรดบุหรี่กับละครใบ้ ดังนั้น ถ้าใครได้ไปบนบานศาลกล่าวสองสิ่งนี้มักจะสำเร็จเสมอ ไม่ว่าของจะหายหรือตกหล่น

ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่หอสมุดแห่งชาติ ได้มีการบันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของจระเข้ “ไอ้ด่างเกยไชย” ไว้โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า

“เกยชัย ตำบล ขึ้น อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เล่ากันว่าเคยมี จระเข้เจ้า ใหญ่โตมากจมูกด่าง เรียกกันว่า ด่างเกยชัย มีวัดพระธาตุเป็นวัดโบราณ และแม่น้ำยมมาสบกันกับแม่น้ำน่านที่ตำบลนี้...”

ด่างเกยไชยเป็นจระเข้ที่มีอายุยืนยาวมาก และคงจะได้ทำร้ายผู้คนมามาก ในที่สุดวาระสุดท้ายก็มาถึงเมื่อชาวเรือขี้เมาใช้เรือมอ ลักษณะเป็นเรือท้องแหลม ชาวจีนเรียกว่าเรือไหหลำ บรรทุกข้าวมาท้าทายไอ้ด่างเกยไชย ไอ้ด่างเกยไชยได้ออกอาละวาด หนุนเรือโคลงไปโคลงมาจะคว่ำเรือ พอได้โอกาสชาวเรือใช้ สามง่ามทิ่มแทงตามท้องเป็นแผลมากมาย
จนทนพิษบาดแผลไม่ได้ เอาหัวเกยหาดหน้าวังตะกอน จึงถูกยิงซ้ำจนตาย หลังจากนั้น ชาวเรือชาวบ้านได้ผ่าท้องไอ้ด่างเกยไชยออกมา พบของมีค่ามากมาย เช่น แหวน สร้อย กำไลข้อมือข้อเท้า เป็นต้น

จากข้อมูลข้างต้นที่กล่าวมาอาจารย์ทัศนา แสงแก้ว อาจารย์ ๒ ระดับ ๗ ของโรงเรียนชุมชนวัดเกยไชยเหนือได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลที่หอสมุดแห่งชาติ มารวบรวมไว้ โดยขณะนั้นมีนางสาวกัลยา เหลืองหิรัญ ได้ช่วยกรุณาสืบค้นเอกสารของหอสมุดแห่งชาติและได้พบเอกสารทางประวัติศาสตร์ตรวจราชการ วัดชุมแสง รายงานพระเจ้าน้องยาเธอ

กรมหลวงดำรงราชานุภาพ พระอิสริยยศในขณะนั้น เสด็จสู่ราชการมณฑลนครสวรรค์ รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๗ (พ.ศ. ๒๔๔๑) หรือเมื่อ ๑๑๖ ปีที่ผ่านมา
ความตอนหนึ่งว่า

“แล้วลงเรือไฟล่องลงมาปากน้ำ เกยไชย แวะดูที่ศาลเจ้า ด้วยได้ยินคำเลื่องลือมานานแล้ว ว่ามีศีรษะจระเข้ใหญ่ ถึงยาวพาดขื่อศาล จำได้ว่าพระยาพิชัยรณฤทธิ์ที่ถึงแก่อสัญกรรมได้บอกเป็นมั่นเป็นเหมาะแต่มีความเสียใจว่า เดี๋ยวนี้หามีศีรษะจระเข้โตที่ศาลนี้ไม่ เขาว่าแต่เดิม
มีศีรษะจระเข้ใหญ่ศีรษะหนึ่ง ครั้งพระยาท่านหนึ่งขึ้นมาส่งเสบียงกองทัพมาเอาลงเสีย และเอาไปให้ฝรั่งมังค่าต่อไปเสียอีก เป็นจบกันในเรื่องศีรษะจระเข้ที่เกยไชย”

นิทานบ้านเกยไชย

นิทานเรื่องบ้านเกยไชยนี้ เป็นนิทานประจำถิ่น อธิบายความเป็นมาของชื่อหมู่บ้านเกยไชยต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ (วิเชียร อชิโนบุญวัฒน์เรียบเรียง ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคกลาง เล่ม ๗หน้า ๓๒๙๘-๓๒๙๙)

สำนวนที่ ๑

สมัยโบราณบ้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของนครสระหลวงเจ้าผู้ครองนคร มีพระธิดาผู้ทรงโฉมงามนางหนึ่ง และมีเจ้าชายนครต่างๆ รักใคร่ชอบพอพระราชธิดา อยู่มาวันหนึ่งมีขบวนเรือขันหมากของเจ้าชายเมืองชากังราวกับเจ้าชายเมืองละโว้ ซึ่งได้จัดเถ้าแก่มาสู่ขอพระราชธิดาที่นครสระหลวงพร้อมๆ กันเจ้าครองนครสระหลวงไม่รู้จะยกให้ใคร จึงออกอุบายให้ไปจัดขันหมากและยกมาพร้อมๆ กัน โดยเริ่มต้นที่พระบางตรงปากน้ำโผล่ และใช้บริเวณที่แม่น้ำยมไหลมาบรรจบกับแม่น้ำน่านเป็นเส้นชัยตัดสิน ใครมาถึงก่อนก็เป็นผู้ชนะจะได้แต่งงานกับพระราชธิดาของตน ขบวนเรือขันหมากได้จ้ำแข่งคู่คี่กันมา แต่เรือของเจ้าชายเมืองชากังราวได้เกิดอุบัติเหตุล่มลงที่วังยางที่จะถึงเส้นชัยเล็กน้อย ขบวนเรือของเจ้าชายเมืองละโว้พายจ้ำมาด้วยความดีใจจนเรือมาเกยหาดทรายก่อนที่จะถึงบริเวณที่แม่น้ำยมกับแม่น้ำน่านบรรจบกัน พวกชาวบ้านได้เรียกบริเวณที่เรือของเจ้าชายเมืองละโว้มาเกยทรายว่า“บ้านเกยทราย”ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น“บ้านเกยไชย”

สำนวนที่ ๒

ด่างเกยไชยหรือไอ้ด่างเกยไชยเป็นนามจระเข้ อยู่ที่ ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เล่ากันมาว่า สมัยก่อนนั้นที่เกยไชยมีวังตะกอนหรือปากแม่น้ำที่มีความลึกมาก มีจระเข้ชุกชุมเรียกว่าวังไอ้เข้ชาวบ้านสมัยนั้นจะลงอาบน้ำในแม่น้ำแต่ละครั้งต้องเอาไม้ปักทำรั้วเพื่อป้องกันจระเข้ จระเข้ชื่อดังตัวหนึ่งที่ชาวบ้านรู้จักดี พวกสัญจรไปมา พวกหาปลาจะถูกไอ้ด่างอาละวาดทำร้ายอยู่เป็นประจำ หัวไอ้ด่างนั้นมีสีขาวๆ อยู่มาก รูปร่างใหญ่ ความยาวจากปากถึงขากรรไกร ยาวประมาณ ๑ วา หัวสูงจากพื้น ๕-๖ ศอก ความยาวของลำตัวประมาณความกว้างของแม่น้ำได้ ด่างเกยไชยเลยเปรียบเสมือนเรือข้ามฟากของเจ้าพ่อจุ๊ย ศาลเจ้าพ่อจุ๊ยนั้นตั้งอยู่ตรงวังตะกอน ชาวเกยไชยนับถือกันมาก ด่างเกยไชยอายุยืนและดุร้ายทำร้ายผู้คนมามากมาย ไม่นานนักก็มีชาวเรือขี้เมาใช้เรือมอเป็นเรือท้องแหลม ชาวจีนเรียกว่าเรือไหหลำบรรทุกข้าวมาท้าทายไอ้ด่าง ไอ้ด่างเกยไชยเลยออกมาตามคำเรียกร้อง หนุนเรือข้าวจนคว่ำ

พอได้โอกาสชาวเรือใช้สามง่ามทิ่มแทงตามท้องจนเป็นแผลมากมาย ไอ้ด่างทนไม่ได้ เอาหัวมาเกยหาดหน้าวังตะกอน จึงถูกยิงซ้ำจนตาย ชาวเรือเลยผ่าท้องไอ้ด่าง พบของมีค่ามากมาย แล้วเอาหัวไอ้ด่างเกยไชยไปไว้ที่ศาลาเจ้าพ่อจุ๊ย จึงเรียกว่า เกยไชย เพราะชื่อจระเข้“ไอ้ด่างเกยไชย”

สำนวนที่ ๓

มีชายคนหนึ่งชื่อวิเชียร เป็นเด็กวัด ได้ศึกษาวิชาคาถาอาคมสามารถแปลงร่างได้ นายวิเชียรคนนี้เกิดไปชอบลูกสาวมัคนายกวัด มัคนายกวัดเห็นว่านายวิเชียรเป็นแค่เด็กวัดจึงไม่ยอมยกลูกสาวให้ ดังนั้นทั้งคู่จึงหนีตามกันไป เมื่อมาถึงฝั่งแม่น้ำที่เกยไชย ไม่รู้ว่าจะข้ามน้ำด้วย
วิธีใด เพราะแม่น้ำกว้างมาก จึงได้ร่ายคาถานำน้ำมนต์ในขันให้เมียถือไว้ แล้วบอกให้เมียทราบ สั่งความไว้ว่าให้ใช้น้ำมนต์ในขันราดตัวจระเข้จะกลายร่างเป็นคนขึ้นมา กลัวว่าเมียจะรดจระเข้ผิดตัว เพราะเดิมแถวเกยไชยมีจระเข้ชุกชุม จึงให้เมียสาวเอาสไบสีขาวผูกคอไว้เป็นเครื่องหมาย ฝ่ายสามีก็แปลงร่างเป็นจระเข้ตัวมหึมาสามารถที่จะให้ภรรยาเดินข้ามแม่น้ำ จากฟากหนึ่งไปอีกฟากหนึ่งได้ เมียเกิดตกใจไม่กล้าเดินข้ามและทำขันน้ำมนต์ตก สามีเลยกลายร่างเป็นคนไม่ได้ ที่เรียกว่าไอ้ด่างเกยไชยเพราะคนเห็นเป็นด่างสีขาวที่หัว แท้จริงเป็นสไบสีขาวที่ผูกคอไว้ ด้วยความโกรธแค้นจระเข้ด่างเกยไชยจึงอาละวาดไปทั่ว และชอบทำร้ายเฉพาะสุภาพสตรี ปัจจุบันที่ศาลเจ้าแม่เกยไชย มีหัวกะโหลกจระเข้อยู่ เป็นที่กล่าวติดปากชาวชุมแสงทั่วไป

สถานที่ตั้ง
ตำบล เกยไชย อำเภอ ชุมแสง จังหวัด นครสวรรค์
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
บุคคลอ้างอิง อวยพร พัชรมงคลสกุล อีเมล์ paitoog@hotmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่