ชาวเชียงแสน ซึ่งเป็นลูกหลานที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวไท-ยวน ในอดีตมีความรุ่งเรือง
ในด้านการปกครอง สถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และหัตถกรรม ฯลฯ มีเมืองหลวงปกครองตนเองที่สืบต่อกันมาตั้งแต่อาณาจักโยนกเชียงแสน
ไทยวน คือ ชนเผ่าไทยกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ในดินแดนล้านนาหรือบริเวณ
เขตจังหวัดภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเรียกตนเองว่า “คนเมือง” หรือไทยล้านนา
ซึ่งได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานในเขตจังหวัดสระบุรีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 โดยแพร่กระจายอยู่ในหลายๆ พื้นที่
ผ้าทอเชียงแสน หรือผ้าทอไทยวน เป็นผ้าทอที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ไทยวน เป็นผ้าพื้นบ้านที่ทอด้วยกี่ทอมือ หรือแบบกี่กระตุก เป็นผ้าทอลายพื้นฐาน
เกิดจากการขัดกันระหว่างเส้นพุ่งกับเส้นยืนเป็นผ้าทอลายเก่าแก่
ผ้าทอเชียงแสน เป็นผ้าที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ อาทิเช่น ผ้าลายดอกพิกุล ผ้าลายดอกบัว เป็นผ้าทอลายโบราณที่มีมานานด้วยเทคนิคเฉพาะ ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบ การเลือกเส้นด้าย การทอ การย้อมสี ทั้งนี้ ผ้าตีนจกไท-ยวน เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวโยนกแห่งเมืองเชียงแสน ที่มีการสืบทอดกันมาหลายช่วงอายุคน จากงานวิจัยบางฉบับ กล่าวว่าลวดลายผ้าตีนจกเป็นลายดั้งเดิม ของชาวไทยวนราชบุรี มี 8 ลาย ได้แก่ ดอกเชีย กาบ หน้าหมอน โก้งเก้ง กาบดอกแก้ว และหักนกคู่
ภูมิปัญญาผ้าทอเชียงแสน ผ้าทอไท-ยวนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีลักษณะเฉพาะของชาติพันธุ์ เป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้พัฒนา สั่งสมทั้งกรรมวิธีการตระเตรียมเส้นใย การผลิต การทอ สีและลวดลาย ที่บ่งบอกสะท้อนให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่
ปัจจุบันอำเภอเชียงแสนถึงแม้จะไม่มีคนไท-ยวน ดั้งเดิมเหลืออยู่เลยก็ตาม แต่เนื่องจาก
เป็นถิ่นกำเนิดของไท-ยวน จึงจำเป็นต้องจัดตั้งชมรม ไท-ยวน เชียงแสน เพื่อเข้าเป็นภาคีเครือข่าย
ของสมาคมฯ อันจะได้ช่วยเหลือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ซึ่งกันและกัน ดังนั้น
ทางอำเภอเชียงแสน โดยการริเริ่มของพระพุทธิญาณมุณี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา และเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย จึงได้จัดตั้งชมรมไท-ยวน เชียงแสนขึ้น และวัดพระธาตุผาเงา อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยการนำของพระครูไพศาลพัฒนาภิรัต และคณะศรัทธาทั้งหลายได้เล็งเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมภูมิปัญญาดั้งเดิม จึงได้จัดให้มีการส่งเสริม อนุรักษ์การทอผ้าลายพื้นเมืองเชียงแสนให้คงไว้ เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านมีงานทำ มีรายได้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือเป็นการสืบสาน อนุรักษ์ ต่อยอดให้เยาวชนได้ศึกษาถึงความสำคัญและความงดงาม อันเป็นเอกลักษณ์ของล้านนาเชียงแสนที่สืบทอดมาแต่โบราณ จึงได้ร่วมกันจัดตั้ง “พิพิธภัณฑ์ผ้าทอล้านนา เชียงแสน” ขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2539 อาคารพิพิธภัณฑ์ผ้าทอล้านนา เชียงแสนเป็นเรือนไม้สองชั้นใต้ถุนโล่ง ชั้นบนจัดแสดง ผ้าทอลวดลายแบบต่าง ๆ เช่น ผ้าลายน้ำไหล ผ้าลายดอกผักแว่น ผ้าลายขวางดำแดง กี่ทอผ้าที่ใช้ในสมัยโบราณเป็นกี่ทอมือ 4 ไม้ ผ้าปักพระเวสสันดร ที่นอนของชาวไทยวน “ตุง” เครื่องใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา ห้องสาธิตการอยู่ไฟหลังคลอด ครัวไฟที่ใช้ประกอบอาหารของชาวล้านนา ฯลฯ นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ยังได้ส่งเสริมให้กลุ่มแม่บ้านสบคำมาทอผ้าพื้นเมือง โดยใช้พื้นที่ใต้ถุนอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นโรงทอผ้า และมีอาคารแสดงผลงานของกลุ่มทอผ้าซึ่งอยู่ติดกันอีกหลังหนึ่งพิพิธภัณฑ์ผ้าทอล้านนาเชียงแสน
ต่อมาในปี 2557 ได้มีการบูรณะและเพิ่มเติมพื้นที่ใช้สอยของอาคารและการจัดแสดง
และล่าสุดได้ปรับปรุงการจัดอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2561 ภายใต้ความร่วมมือกับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นล้านนา ที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การหาชน) มีโกมล พานิชพันธ์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการปรับปรุงนิทรรศการ ภายในนำเสนอเกี่ยวกับการตระเตรียมเส้นใย การทอผ้าโดยจัดแสดงอุปกรณ์ต่าง ๆ ในแต่ละขั้นตอน นำเสนอลวดลายผ้าเชียงแสนที่แตกต่างกัน ผืนผ้าและการนุ่ง รวมถึงนำเสนอผ้าที่เป็นของชาวบ้านกับผ้าสำคัญในทางศาสนา และผืนผ้าทอขนาดยาวที่เป็นผ้าที่ช่างไท-ยวนในแต่ละถิ่นร่วมทอกันไว้เป็นผืนยาว