ศูนย์วัฒนธรรมผู้ไทยบ้านโพน
บ้านโพน
เป็นหมู่บ้านชาวผู้ไทยซึ่งเป็นกลุ่มเผ่าไทยสาขาหนึ่ง ที่เมื่อกว่าร้อยปีก่อนเคยมีถิ่นฐานอยู่ที่บริเวณสิบสองปันนาและย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในกาฬสินธุ์เนิ่นนานแล้ว จนปัจจุบันก็ยังคงรักษาศิลปวัฒนธรรมซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษไว้ได้มาก โดยเฉพาะการทอผ้าไหมพาวา ซึ่งเป็นผ้าที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ จ.กาฬสินธุ์ นักท่องเที่ยวแวะไปเยี่ยมชมและเลือกซื้อผ้ากันมาก จึงมีการตั้งศูนย์วัฒนธรรมผู้ไทยบ้านโพนขึ้นเพื่อรองรับการท่องเที่ยวภายในศูนย์นอกจากจะจำหน่ายผ้าไหมและงานหัตถกรรมแล้วยังมีบ้านเรือนแบบต่างๆ ของชาวผู้ไทยให้เที่ยวชมหรือเข้าพักด้วย
- เปิดเวลา 08.30-17.00 น.
- โทร.0-4385-6204
- ติดต่อกลุ่มอาชีพทอผ้าไหมบ้านโพน โทร.0-4385-6139
ที่ตั้งและการเดินทาง
ต.บ้านโพน อ.คำม่วง
รถยนต์ส่วนตัว
จาก อ.สมเด็จใช้ทางหลวงหมายเลข 2041 ไปทางเขื่อนลำปาว จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 227 ไปทาง อ.คำม่วง ผ่านบ้านใหม่ชัยมงคลไปประมาณ 2.5 กม. ถึงบ้านโพน ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนสายบ้านโพน-คำม่วงไปประมาณ 200 ม. ศูนย์วัฒนธรรมอยู่ทางซ้ายมือ
รถประจำทาง
ขึ้นรถสายกาฬสินธุ์-คำม่วง
ประวัติ
นายชัยรัตน์ มาประณีต ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้เสนอโครงการปรับปรุงศูนย์วิจิตรแพรวาบ้านโพน และขอรับเงินสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทยตามโครงการท่องเที่ยวไทยและท่องเที่ยวเชิงเกษตร จำนวน 3 ล้านกว่าบาท โดยก่อสร้างและปรับปรุงศูนย์ผู้ไทยและศูนย์วิจิตรแพรวาบ้านโพนเป็นศูนย์วัฒนธรรมผู้ไทยบ้านโพนแล้วเสร็จเมื่อ 31 ต.ค.2544
สิ่งน่าสนใจ
อาคารศูนย์วิจิตรแพรวาเป็นศูนย์จำหน่ายงานหัตถกรรมของชาวบ้านโพน มีสินค้ามากมายให้เลือกชม นอกจากผ้าไหมแพรวาซึ่งเป็นสินค้าเด่นของที่นี่แล้ว ยังมีชุดสำเร็จรูปและงานหัตถกรรมอื่นๆ อีก เช่น เข็มกลัดผีเสื้อทำจากผ้าไหมเหมาะเป็นของผา ราคาเพียงอันละ 20-25 บาทเท่านั้น เครื่องจักสานไม้ไผ่ฝีมือชาวผู้ไทย ฯลฯ
เรือนผู้ไทย
- ค่าเช่าพัก 100 บาท/คน/คืน รวมค่าอาหารมื้อเย็นตำรับชาวผู้ไทยและค่าอาหารสำหรับตักบาตรตอนเช้า 250 บาท/คน/คืน เช่าทั้งหลัง 500-1,000 บาท/หลัง มีบริเวณทำครัวในแต่ละหลัง ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม
มีชื่อต่างๆ คือ เรือนเบญจมาศ เรือนดาวเรือง เรือนทานตะวัน และเรือนพุดตาน เป็นเรือนไม้ที่ปลูกตามแบบเรือนผู้ไทยแท้ หลังคามุงแป้นเกล็ดหรือกระเบื้องไม้ ตัวเรือนยกพื้นสูง มีบริเวณใต้ถุนเรือนเป็นที่พักผ่อนช่วงกลางวัน ชั้นบนแบ่งออกเป็นเรือนย่อยคล้ายเรือนไทยภาคกลางและมีนอกชาน เรือนเหล่านี้นอกจากจะเป็นเรือนสาธิตวิถีชีวิตชาวผู้ไทยในลักษณะพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังเปิดให้เข้าพักค้างคืนด้วย
หมู่บ้านชาวผู้ไทย
หมู่บ้านนี้ยังมีวิถีชีวิตหลายอย่างในรูปแบบดั้งเดิม ใต้ถุนเรือนทุกหลังมีกี่ทอผ้าอย่างน้อยหนึ่งตัว ช่วงนอกฤดูกาลเก็บเกี่ยวพวกผู้หญิงจะนั่งทอผ้ากันอย่างขะมักเขม้นสาวชาวบ้านโพนยังยึดถือคำสอนของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ว่า ถ้ายังทอผ้าบ่เป็น ก็ยังบ่ต้องเอาผัว ส่วนพวกผู้ชาวจะจักสานไม้ไผ่
หากนักท่องเที่ยวแวะไปเยี่ยมเยียนในช่วงงานบุญประเพณีสำคัญจะเห็นชาวผู้ไทยแต่งกายชุดประจำเผ่าที่สวยงาม โดยเฉพาะผู้หญิงจะมีผ้าสไบเป็นผ้าไหมแพรวาสีสวยสดลวดลายวิจิตรเป็นเอกลักษณ์