สร้างขึ้น พ.ศ. 2404 ไม่ปรากฏหลักฐานผู้สร้าง ตำนานกล่าวว่า มีต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น และต้องโค่นเพื่อใช้สถานที่สร้างวัด ได้เกิดแสงประหลาดพวยพุ่งขึ้นจากพื้นดิน ตามโบราณกล่าวว่าทรัพย์แผ่นดินเคลื่อนที่ จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นทอง อีกนัยหนึ่ง บริเวณสถานที่ที่สร้างวัดมีรูปลักษณ์คล้ายอ่าง โดยมีแม่น้ำท่าจีนล้อมรอบอยู่ จึงได้ชื่อว่า “วัดอ่างทอง”
ปรับปรุงข้อมูลครั้งที่ 1*
วัดอ่างทอง ตั้งอยู่เลขที่ ๔๕ หมู่ที่ ๑๑ ตำบลบางยาง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๒๘ ไร่ ๒๔ ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือ จดที่เอกชน ทิศใต้ จดแม่น้ำท่าจีน ทิศตะวันออก จดที่ดินเอกชน ทิศตะวันตก จดคลองสาธารณะ มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๓ แปลง เนื้อที่ ๒๐ ไร่ ๓ งาน ๙๗ ตารางวา โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๙๔, ๒๒๙๕ และ ๒๐๕๕ อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๘ เมตร ยาว ๒๘ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๙ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๘ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นอาคารไม้ทรงไทย หอสวดมนต์ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๔๔ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๓ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ทรงไทยประยุกต์ ๒ ชั้น กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๕ หลัง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๓๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ เป็นอาคารไม้ทรงไทย ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๒ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก นอกจากนี้มีอาคารเสนาสนะต่างๆดังนี้ คือ ฌาปนสถาน ๑ หลัง ศาลาพักร้อน ๘ หลัง ศาลารับรอง ๒ หลัง โรงครัว ๒ หลัง หอกลอง ๑ หลัง หอระฆัง ๑ หลัง และวิหารคด ๑ หลัง ปูชนียวัตถุมี พระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ เมตร สูง ๓ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๙ พระพุทรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๘ นิ้ว ๓ องค์ เนื้อทองสำริด และพระพุทธรูป ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๘ นิ้ว ๓ องค์
วัดอ่างทอง ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๔ ไม่ปรากฏหลักฐานนามผู้สร้างและผู้บริจาคที่ดินที่มาของชื่อวัดตามตำนานกล่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวมีต้นไม้ใหญ่ ๑ ต้น และจำเป็นจะต้องโค่นต้นไม้นี้เพื่อใช้สถานที่สร้างวัด ในยามค่ำคืนก่อนที่จะทำการโค่นต้นไม้นี้ ได้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ เกิดแสงประหลาดพวยพุ่งขึ้นจากดิน สูงคล้ายดอกไม้เพลิงสว่างโชติช่วง ตามโบราณกล่าวว่ามีทรัพย์แผ่นดินเคลื่อนที่ จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นทอง ซึ่งเป็นทรัพย์แผ่นดินที่ฝังอยู่และเคลื่อนที่ไปอยู่ที่อื่น เมื่อสร้างวัดเสร็จชาวบ้านจึงตกลงกันตั้งชื่อวัดว่า “วัดอ่างทอง” อีกนัยหนึ่ง บริเวณสถานที่ที่สร้างวัดมีรูปลักษณะคล้ายอ่าง โดยมีแม่น้ำท่าจีนล้อมรอบอยู่จึงได้ชื่อวัดดังกล่าว วัดอ่างทองได้รับการบูรณะและพัฒนามาโดยตลอด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๓๐ เมตร การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือรูปที่ ๑ พระยา รูปที่ ๒ พระสงวน รูปที่ ๓ พระชุ่ม พ.ศ. ๒๔๕๓ – ๒๔๗๕ รูปที่ ๔ พระเป๊า อินทสโร พ.ศ. ๒๔๗๕ – ๒๔๘๖ รูปที่ ๕ พระสมบุญ พ.ศ. ๒๔๘๖ – ๒๔๙๘ รูปที่ ๖ พระเป๊า อินทสโร พ.ศ.๒๔๙๘ – ๒๕๐๒ รูปที่ ๗ พระครูเก๊า ธมมโชติ พ.ศ. ๒๕๐๒ – ๒๕๑๘ รูปที่ ๘ พระครูสาครวุฒิสาร พ.ศ. ๒๕๑๘ – ๒๕๒๘ รูปที่ ๙ พระครูสาครสุวรรณาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๒๙ – ปัจจุบัน การศึกษา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ และโรงเรียนผู้ใหญ่วัด เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ นอกจากนี้มีโรงเรียนประถมศึกษา ตั้งอยู่ในที่ดินวัด