วัดธรรมจริยาภิรมย์ เริ่มแรกสร้างเป็นเสนาสนะหลังคามุงจาก เมื่อ พ.ศ.2447 ต่อมานายทิม ได้นำลูกชายคือ นายห่วง ศรีนิเวศน์ ไปอุปสมบทที่วัดคฤหบดี พระครูธรรมจริยาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระห่วง ได้กลับมาดูแลวัดในปีนั้น ชาวบ้านเรียก “วัดใหม่ธุรส” หรืออีกชื่อ “วัดใหม่มธุรส” สืบกันมา ต่อมาพระครูธรรมจริยาได้เปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า “วัดธรรมจริยาภิรมย์” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2474

ปรับปรุงข้อมูล ครั้งที่ ๑*

วัดธรรมจริยาภิรมย์ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๓๙ หมู่ที่ ๑ ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๔๔ ไร่ ๑ งาน ๓๖ ตารางวา โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๗๔๐ อาณาเขต ทิศเหนือ จดคลองดำเนินสะดวก ทิศใต้และทิศตะวันออก จดคันสหกรณ์ ทิศตะวันตก จดคลองวัด มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๔ แปลง เนื้อที่ ๘๗ ไร่ ๙๖ ตารางวา โฉนดที่ดินเลขที่ ๕๔๔๗,๒๓๓๙,๒๓๔๕,๒๓๔๖ อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๑๒ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๗ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นเดียว หอสวดมนต์ กว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๒ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กุฏิสงฆ์ จำนวน ๙ หลัง เป็นอาคารไม้ ๑ หลัง และตึก ๘ หลัง ศาลาอเนกประสงค์ กว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๓๓ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๒ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูชนียวัตถุมี พระประธานประจำอุโบสถ

วัดธรรมจริยาภิรมย์ ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗ ความเป็นมาของการตั้งวัด ในตำบลหลักสาม มีพี่น้องตระกูลศรีนิเวศน์ ซึ่งเป็นตระกูลที่พอจะมีจะกินอาศัยอยู่ เดิมเป็นตำบลเล็กๆไม่ค่อยมีประชาชนมากนัก ต่อมานายห่วง ศรีนิเวศน์ ได้ไปอุปสมบทอยู่ที่วัดคฤหบดี กรุงเทพฯ พี่น้องเดินทางมาเยี่ยม ได้พบกับพระครูจริยาภิรมย์ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดคฤหบดีในสมัยนั้นได้สอบถามถึงการทำบุญของประชาชนที่อาศัยอยู่ในตำบลหลักสาม นายเกลื่อน ศรีนิเวศน์ จึงเล่าว่าลำบากมากเพราะในตำบลหลักสามมีแต่วัดมอญ ซึ่งเวลาสวดจะใช้ภาษารามัญ ซึ่งฟังแล้วไม่เข้าใจ พระครูจริยาจึงแนะนำให้ไปสร้างวัดไทยขึ้น โดยท่านจะเป็นผู้ดำเนินการให้ต่อมาก็หาที่สร้างวัดและดำเนินการจนแล้วเสร็จ โดยให้ชื่อว่า วัดใหม่มธุรส ต่อมาได้แจ้งให้เจ้าอาวาสวัดคหบดีทราบ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดธรรมจริยาภิรมย์ ตามชื่อของพระครูจริยาภิรมย์ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสร้างวัดให้ มาจนถึงปัจจุบัน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๔ เขตวิสุงคามสีมากว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๑๒ เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ รูปที่ ๑ พระห่วง พ.ศ.๒๔๔๗ – ๒๔๕๖ รูปที่ ๒ พระบุญนาค พ.ศ. ๒๔๕๖ – ๒๔๕๗ รูปที่ ๓ พระอธิการจง พ.ศ. ๒๔๕๗ – ๒๔๗๕ รูปที่ ๔ พระรอด พ.ศ. ๒๔๗๕ – ๒๔๗๕ รูปที่ ๕ พระใบฎีกาบุญธรรม พ.ศ. ๒๔๗๕ – ๒๔๘๗ รูปที่ ๖ พระครูสุนทรธรรมวาที พ.ศ. ๒๔๘๘ – ปัจจุบัน การศึกษา มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘ โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐ และโรงเรียนผู้ใหญ่วัด เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๗